Tag
เที่ยวเชียงใหม่ Pantip
Browsing
แผนการท่องเที่ยวเชียงใหม่ “Green Trip ท่องเที่ยวกลางขุนเขาเมืองเชียงใหม่ ท่ามกลางฤดูฝน” เข้าสู่ฤดูฝนทีไร หลายคนอาจรู้สึกเบื่อหน่ายกับอากาศมืดมัว ฝนตกทั้งวัน ท้องฟ้าฉ่ำน้ำ ถนนหนทางเฉอะแฉะ ไปไหนก็ลำบาก ลองเปลี่ยนความรู้สึกเบื่อหน่าย ที่ต้องนั่งจับเจ่าอยู่ในบ้านด้วย การเก็บกระเป๋าออกเดินทาง ไปเที่ยวป่าเขากลางฤดูฝน กันดีกว่า แล้วจะพบว่า การเที่ยวป่าเขาในฤดูฝน เป็นอีกหนึ่งของการเดินทางที่ไม่ธรรมดา ป่าเขาในฤดูฝนมีความงามที่ลึกล้ำคาดเดาได้ยาก บางวันที่ท้องฟ้า เปิดจะเห็นหมู่เมฆขาวลอยสูง บนท้องฟ้าสีครามตัด กับสีเขียวเข้มของ ทิวเขาสูงเล่นเฉดกับทุ่งหญ้าสีเขียวอ่อน อากาศเย็นสบาย เมื่อสูดอากาศเข้าไปก็รู้ได้ถึงอาการปอดสะอาด การไปเที่ยวป่า เขาหน้าฝนบางครั้งอาจเจอฝนกระหน่ำทั้งวัน แต่หลังจากฝนซา หมอกขาวที่ปกคลุมไปทั้งขุนเขาคือ รางวัลของนักท่องเที่ยว ที่รอฟ้าสวยใสหลัง จากสายฝนโปรยผ่านไป ดังนั้นการไปเที่ยวเชียงใหม่ในฤดูฝนจึงเป็นอีกหนึ่งทริปที่ต้องลองไปลุยกันดูสักครั้ง

Day 1 : วันแรกของกรีนทริป ชมนาขั้นบันได ไฮไลท์ของการเที่ยวหน้าฝน

เป้าหมายแรกของการเดินทางคืออำเภอแม่แจ่ม เป็นแหล่งเที่ยวชมนาขั้นบันไดที่สวยงามที่สุดของเชียงใหม่ เพราะมีพื้นที่ส่วนใหญ่ เป็นภูเขาสูงและลาดชัน การทำนาบนภูเขาของเกษตรกรชาวนาในพื้นที่แถบนี้ จึงต้องทำคันนาตามความชัน ของพื้นที่เพาะปลูก เป็นภูมิปัญญาชาวบ้านเพื่อเพิ่มพื้นที่ปลูกข้าวให้ได้มากขึ้น และยังเป็นการรักษาหน้าดินไม่ให้ น้ำฝนไหลเซาะดินให้พังทลาย เมื่อมองจากมุมสูงจะได้เห็นสีเขียวขจีของนาข้าว เป็นทุ่งสีเขียวเรียงรายเหมือน ขั้นบันไดท่ามกลางภูเขาสูงสลับซับซ้อน จุดชมวิวนาขั้นบันได มีหลายจุดให้แวะชม เช่น บ้านทุ่งยาว บ้านแม่หมิง บ้านตีนผา บ้านป่าบงเปียง

“แม่แจ่มเมืองเล็ก ๆ วิถีสโลไลฟ์ เที่ยวได้ทั้งอำเภอ”
แม่แจ่มอยู่ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ประมาณ 150 กิโลเมตร การเดินทางสะดวกทั้งบริการรถโดยสารสาธารณะรถยนต์ส่วนตัว หรือรถเช่า การเดินทางไปแม่แจ่มโดยรถยนต์ ออกจากเมืองเชียงใหม่ขับมาตามถนนสาย 108 (เชียงใหม่ -ฮอด) ไปทางอำเภอจอมทอง ขับไปจนถึงอำเภอฮอด จากนั้นก็ใช้เส้นทางถนนสาย 1008 วิ่งตรงไปอีก 46 กิโลเมตรก็เข้าสู่อำเภอแม่แจ่ม วันแรกที่มาถึงหลังจากเช็คอิน เข้าโฮมสเตย์เรียบร้อยแล้ว ยังมีเวลาพอสำหรับ การขับรถเที่ยวชมเมืองแม่แจ่ม ทะเลหมอกไม่ใช่ มีเพียงแค่ในฤดูหนาวเท่านั้น เพราะหมอกในฤดูฝนนั้นมีให้เห็นตลอดการเดินทางระหว่างป่าเขา ทะเลหมอกเกิดขึ้นได้เสมอหลังจากฝนตก ที่แม่แจ่มมีจุดชมทะเลหมอกแจ่ม ๆ ที่ต้องแวะไปชมคือ จุดชมวิวบ้านบนนา และทะเลหมอกดอยม่อนหมาก

ที่พักแบบโฮมสเตย์ นอนกลางนา ณ. บ้านป่าบงเปียง
ที่พักค้างแรมคืนแรก ของทริปคือการลองหาที่พักแบบโฮมสเตย์ นอนฟังเสียงธรรมชาติ ที่ขับกล่อมยามกลางคืน บนบ้านพักแบบง่าย ๆ บ้านไม้กลางทุ่งนา มีนอกชานเป็นระเบียงกว้าง สำหรับนั่งชมวิว และกินอาหารพื้นเมืองแสนอร่อย ตื่นเช้าก็เห็นทุ่งนาขั้นบันไดเขียวขจีสุดลูกหูลูกตา การเลือกที่พักแรมอย่างนี้ไม่ใช่เพื่อความสะดวกสบาย แต่ถ้าอยากสัมผัสความเรียบง่าย การอยู่กลางท้องนาล้อมรอบด้วยป่าเขา คือความโล่งใจ โปร่งสบาย เหมือนเข็มนาฬิกาเดินช้าลง ชีวิตไม่วุ่นวายเป็นวิถีสโลว์ไลฟ์ที่แท้จริง

Day 2 : เดินป่าหน้าฝน กับเส้นทางศึกษาธรรมชาติอ่างกาหลวง ชมน้ำตกวชิรธาร บนดอยอินทนนท์”

หลังอาหารเช้า ก็ขับรถแวะเที่ยวชมนาขั้นบันไดจนเต็มอิ่ม กับความสดของต้นข้าว ในท้องนาแล้ว จากนั้นก็มุ่งหน้า เข้าสู่ดอยอินทนนท์ เป้าหมายที่พักแรมคืนที่ 2 ของทริป ดอยอินทนน์เป็นดอยที่ถือว่าไปเที่ยวง่าย สะดวกสบายทั้งการเดินทางและที่พัก จากแม่แจ่มไปดอยอินทนนท์ ระยะทาง 65.4 กิโลเมตร ใช้ถนนหมายเลข 1088 และถนนหมายเลข 1192 เป็นเส้นทางขึ้นเขาค่อนข้างคดเคี้ยว ต้องใช้ความระมัดระวังในการขับรถ การขับรถช้า ๆ นอกจากเพื่อความปลอดภัยแล้ว ยังได้ชมวิวเป็นป่าเขาต้นไม้ไปด้วย บนดอยอินทนน์ มีที่เที่ยวมากมาย ทั้งเส้นทางเดินป่าศึกษาธรรมชาติ ศูนย์อนุรักษ์พันธ์ไม้ หรือน้ำตกสวยๆ หลายแห่ง

หน้าฝนเป็น ช่วงเวลาป่าที่อุดมสมบูรณ์ที่สุด บนดอยอินทนนท์ มีเส้นทางเดินป่าสายสั้น ๆ คือเส้นทางศึกษาธรรมชาติ อ่างกาหลวง การเดินป่าหน้าฝนเราจะได้พบกับความสดชื่น อากาศบริสุทธิ์ สงบเงียบอย่างที่ ไม่เคยเจอมาก่อนและอีกอย่างของการเที่ยวหน้าฝนคือ เที่ยวน้ำตก บนดอยอินทนน์ มีน้ำตกขนาดใหญ่และสวยงาม คือน้ำตกวชิรธาร น้ำที่ตกมาจากที่สูงทำ ให้มีละอองน้ำกระจายไปทั่ว รอบ ๆน้ำตกจึงมีความ ชื้นหล่อเลี้ยงพันธ์ไม้หลากหลาย บรรยากาศรอบ ๆ น้ำตกมีแต่ความชุ่มชื้นเย็นฉ่ำ ที่สำคัญคือน้ำตกแห่งนี้มีร้านอาหาร และสิ่งอำนวยความสะดวก ให้กับนักท่องเที่ยว การเดินทางก็สะดวก หลังสูดโอโซนกันได้เต็มปอดก้ได้เวลาเดินทางกลับสู่ตัวเมืองเชียงใหม่ แวะท่องเที่ยวสัมผัสวิถีชีวิตคนเมือง ก่อนเดินทางกลับบ้านกัน

เตรียมความพร้อมก่อนวางแผนเที่ยวแบบ Green Trip

มาเที่ยวเชียงใหม่ หน้าฝนข้อดี คือ สถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ รวมทั้งที่พัก ไม่วุ่นวาย นักท่องเที่ยวมาน้อย แต่การมาเที่ยวหน้าฝน ก็ต้องเจอฝน และ ความเปียกแฉะบ้าง ควรเตรียมอุปกรณ์กันฝน เสื้อผ้า รองเท้าให้เหมาะสม เตรียมร่างกายให้พร้อมรับ กับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง และที่สำคัญคือการเตรียมใจให้พร้อม ก่อนเดินทางควรตรวจ เช็คพยากรณ์อากาศ ว่าในระหว่างวันสภาพอากาศเป็นอย่างไร เพื่อการปรับแผนการเที่ยว ให้เหมาะสมกับทริปของตัวเอง ให้สนุกและปลอดภัยมากที่สุดด้วย แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม อยากที่จะให้ผู้อ่านบทความ ควรแสวงหาแนวทางในการเดินทาง ใน แบบ Green Trip ไว้ด้วยเสมอ เพราะ ด้วยปัจจุบันนี้คุณควร ที่จะต้องมองหาข้อมูล ในการเดินทางให้ดีก่อน ยิ่งเป็นช่วง สถานการณ์โควิด -19 แบบนี้อีก ก็จะต้องมีการเช็ค เรื่องของพยากรณ์อากาศ ในแต่ละพื้นที่ของจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อความสนุกสนาน ไปในตัวอย่างดีนั่นเอง
Booking.com
เชียงใหม่คือจุดหมายที่หลายคนคิดถึงเมื่อลมหนาวพัดมา เพราะเป็นพิกัดที่มีพร้อมทั้งการเดินทางที่สะดวกสบาย ที่พักหลากหลายรูปแบบและราคา แถมยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจสารพัดสไตล์ให้เลือกกันได้ชนิดที่ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมายเลยจ้า คราวนี้เราขอเอาใจคนชอบเที่ยวใกล้ๆ แบบไม่ต้องรีบตื่นเช้าเพื่อออกเดินทางหรือขับรถไกลๆ กันให้เสียเวลา ด้วยการรวบรวมพิกัดเที่ยวรอบๆ ตัวเมืองเชียงใหม่มาไว้ให้ปักหมุดกัน ที่สำคัญอย่าลืมจองตั๋วเครื่องบินเชียงใหม่กับ Traveloka ด้วยนะ จองง่ายแถมยังได้ราคาถูกใจ ได้เที่ยวเชียงใหม่กันแบบสบายๆ แน่นอน และอย่าลืมไปเช็คมาตรการสนามบินก่อนบินกันได้เลย > คลิก
15 ที่เที่ยวในตัวเมืองเชียงใหม่

1. พระธาตุดอยสุเทพ
แลนด์มาร์คยืนหนึ่งซึ่งเรามั่นใจว่าคนไปเชียงใหม่ทุกคนล้วนต้องแวะเช็คอินกันอย่างน้อยก็ซักครั้งละนะ พระธาตุดอยสุเทพนั้นสร้างขึ้นตั้งแต่สมัย พ.ศ.1926 โน่นเลยจ้า ด้านในองค์เจดีย์ของที่นี่ เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเอาไว้ นี่จึงเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของเมืองเชียงใหม่ที่นักท่องเที่ยวต้องแวะมา ได้ไหว้พระขอพรแล้วยังได้ดูวิวมุมสูงสวยๆ ของตัวเมืองในที่เดียวกันด้วยจ้า เดินทางง่ายใกล้ตัวเมืองเลยละ ไม่มาไม่ได้แล้ว

2. วัดอุโมงค์
วัดสวยซึ่งมีสไตล์ไม่ซ้ำใคร ด้วยการมีทางเดินเป็นอุโมงค์เชื่อมต่อกันหลายทิศทางไปยังบริเวณองค์เจดีย์ซึ่งอยู่กลางลานกว้าง วัดนี้เป็นอีกวัดเก่าแก่ที่อยู่คู่กับเมืองเชียงใหม่มาแล้วประมาณกว่า 700 ปี ไฮไลท์ของที่นี่คือการที่เราจะได้เดินเข้าไปไหว้พระกันในอุโมงค์ยาว ซึ่งให้บรรยากาศที่สงบร่มเย็นเหมาะกับการมาทำบุญนั่งสมาธิกันสุดๆ เลยเชียวละ รอบบริเวณวัดยังมีอีกหลายพิกัดที่น่าสนใจให้เดินเที่ยวกันได้ด้วยนะ อยากได้ความสงบกลางเมืองเชียงใหม่แนะนำให้แวะมา

3. ประตูท่าแพ
ซิกเนเจอร์ของเมืองเชียงใหม่ที่น่าแวะไปถ่ายรูปแบบสุดๆ เลยเชียวละ เพราะเป็นกำแพงเมืองขนาดใหญ่ซึ่งสร้างด้วยอิฐสีส้มสวยขลังตามกาลเวลา ประตูท่าแพยังเป็นประตูเมืองแห่งเดียวของเชียงใหม่ที่มีบานประตูเปิดปิดด้วยนะ ด้านในกำแพงมีลานกว้างซึ่งมักจะมีฝูงนกพิราบแวะเวียนมาเป็นพร็อพประกอบรูปถ่ายแบบเก๋ๆ ให้ด้วยจ้ะ เดินหาให้ดีที่นี่มีมุมเจ๋งๆ เหมาะกับการโพสต์ท่าฮิปๆ เพียบเลยน้า วันอาทิตย์ยังมีถนนคนเดินให้ไปช้อปกันด้วยละ พลาดบ่ได้เลยเน้อ

4. ถนนนิมมานเหมินทร์
เป็นพิกัดซึ่งรวบรวมความฮิป เก๋ คูล ของเมืองเชียงใหม่เอาไว้แบบจุกๆ เลยเชียวละ ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร ร้านขายสินค้าตกแต่งบ้านซึ่งเต็มไปด้วยดีไซน์ คาเฟ่เก๋ๆ ที่ไปนั่งชิลล์หามุมถ่ายรูปกันได้สารพัดโลเกชั่น ถนนนิมมานเหมินทร์นั้นมีกันทั้งหมด 17 ซอยไปเลยจ้า อยากช้อปเสื้อผ้าหรือแอ็คเซสซอรี่ส์ทั้งหลายก็มีล่อตาล่อใจอยู่หลายร้านเชียวละ ถนนนี้จะคึกคักกันตั้งแต่ช่วงสายๆ ไปจนถึงดึกๆ เลยนะ ใครชอบเดินเล่นแล้วแวะหาของอร่อยกินไปเรื่อยๆ เผื่อเวลาไว้เต็มๆ วันเลยจ้ะ รับประกันว่าจุใจ

5. สวนสัตว์เชียงใหม่ / เชียงใหม่ ซู อควาเรียม
เป็นพิกัดที่เดินทางง่ายเพราะอยู่ใกล้กับทางขึ้นไปดอยสุเทพ และเป็นสวนสัตว์ขนาดใหญ่ซึ่งมีหลายโซนให้เดินเล่นกัน ไฮไลท์สำคัญของที่นี่ก็คงต้องยกให้กับหมีแพนด้าซึ่งหาชมตัวเป็นๆ ได้เพียงที่เดียวในเมืองไทย หรือถ้าอยากเห็นโคอาล่าเค้าก็มีให้ดูกันด้วยน้า ตามมาด้วยสวนชมนกนครพิงค์พื้นที่กว่า 6 ไร่ ซึ่งเป็นสวนนกที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทยเลยละ อยากชมสัตว์น้ำเค้าก็มี เชียงใหม่ ซู อควาเรียม ที่มีอุโมงค์ใต้น้ำซึ่งกว้างและยาวที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีโซนใต้น้ำที่รวมเอาทั้งสัตว์น้ำจืดและน้ำเค็มมาไว้ให้ดูกันแบบจุกๆ อีก 6 โซนเลยนะ เก๋สุดก็ตรงที่เค้ามีกิจกรรมดำน้ำให้ทำกันด้วยจ้ะ อยากสคูบากลางเมืองเชียงใหม่ก็มาจัดได้ที่นี่เลย!

6. วัดพระสิงห์
หนึ่งวัดสวยกลางเมืองเชียงใหม่ที่ควรไปชมด้วยตา วัดพระสิงห์นั้นเป็นที่ประดิษฐานองค์พระสิงห์หรือพระพุทธสิหิงค์ซึ่งเป็นพระคู่เมืองเชียงใหม่มาตั้งแต่โบราณ ความเชื่อตามคติล้านนานั้นว่ากันว่าคนที่เกิดปีมะโรงต้องมากราบองค์พระสิงห์ให้ได้ซักครั้งในชีวิตเลยนะ ในวัดพระสิงห์นั้นเต็มไปด้วยศิลปะความสวยสไตล์ล้านนาโบราณที่งดงามจับตา ว่ากันว่าวัดนี้มีหอธรรมที่งดงามที่สุดของภาคเหนือเลยจ้า แถมยังมีภาพจิตรกรรมฝาผนังซึ่งหาดูไม่ได้ง่ายๆ บางวันในวัดยังมีแผงขายของพื้นเมืองน่ารักๆ ให้ได้แวะจับจ่ายกันด้วยนะ เป็นอีกวัดที่แนะนำว่าอย่าพลาดเลย

7. ถนนคนเดินท่าแพ
เป็นถนนคนเดินสุดอลังการที่เปิดให้เดินกันได้ในช่วงเย็นวันอาทิตย์ โดยเป็นแหล่งรวบรวมทั้งของกินและของใช้สไตล์ท้องถิ่น รวมไปถึงของฝากสารพัดรูปแบบและราคา บอกได้เลยว่านี่คือหนึ่งถนนคนเดินในเมืองไทยที่เดินได้แบบมันสุดๆ จ้า เพราะตลอดเส้นทางยังมีซอกเล็กซอยน้อยให้แวะกระจายรายได้กันอีกสารพัด จะเป็นเสื้อผ้า รองเท้า งานศิลปะ ของตกแต่งบ้าน หรือเครื่องประดับ ก็มีให้จับจ่ายกัน มาเชียงใหม่เมื่อไหร่วางแพลนมาโดนที่นี่กันให้ได้เลยนะ สายช้อปไม่มีคำว่าผิดหวังแน่นอน

8. วัดศรีสุพรรณ
อีกหนึ่งวัดเก่าบนถนนวัวลาย ซึ่งอยู่คู่กับเมืองเชียงใหม่มาตั้งแต่ พ.ศ.2043 และเพราะความที่ถนนวัวลายนั้นเป็นที่ตั้งของศูนย์กลางชุมชนหัตถกรรมเครื่องเงินล้านนา จึงเป็นที่มาของการเริ่มสร้างพระอุโบสถเงินหลังแรกของโลกที่วัดนี้ในปี พ.ศ.2547 ซึ่งตัวพระอุโบสถเงินนั้นสร้างในรูปแบบศิลปะล้านนาด้วยฝีมือของช่างในท้องถิ่น โดยใช้เงินและดีบุกเป็นวัสดุหลัก ทั้งด้านนอกและด้านในนั้นละเอียดยิบไปด้วยชิ้นงานสุดอลังการเลยเชียวละ ใกล้กันยังมีพระบรมธาตุ และพิพิธภัณฑ์ภูมิปัญญาสล่าสิบหมู่ให้เดินชมกันด้วยนะ เป็นอีกพิกัดกลางเมืองเชียงใหม่ที่น่าสนใจไม่น้อยเลย

9. แกรนด์ แคนยอน เชียงใหม่
ออกจากใจกลางเมืองเชียงใหม่ไปประมาณ 20 กิโลเมตรเท่านั้น ก็จะได้เจอกับสถานที่พักผ่อนยอดฮิตอีกหนึ่งแห่งของสายกิจกรรมเค้าละ พื้นที่ราวๆ 30 ไร่ ซึ่งมีการขุดดินไปขายจนทำให้เกิดคันดินความสูงใกล้เคียงกับตึก 3 ชั้น! ให้อารมณ์คล้ายๆ แกรนด์ แคนยอน ของอเมริกา แต่ที่เด็ดกว่าคือลงไปเล่นน้ำได้! ใครเป็นสายกิจกรรมชอบความแอดเวนเจอร์ ที่นี่เค้ามีอุปกรณ์เครื่องเล่นให้ลองมันกันได้เพียบเลยจ้า หรือจะแค่มาเดินดูเดินถ่ายรูปแวะหาอะไรกินเพลินๆ ก็ได้เหมือนกันนะ เลือกตามอัธยาศัยเน้อ

10. เชียงใหม่ ไนท์ซาฟารี
อีกหนึ่งพิกัดที่คนรักสัตว์ไม่ควรพลาด เพราะเป็นอีกบรรยากาศในการเที่ยวชมบรรดาสัตว์ป่าซึ่งต่างจากในสวนสัตว์ปกติทั่วไป โดยนอกจากจะมาเที่ยวชมในตอนกลางวันกันได้แล้วนะ ที่นี่เค้ายังเปิดให้บริการพานั่งรถพ่วงส่องสรรพสัตว์ในยามค่ำคืนอีกด้วยจ้า แถมนอกจากดูสัตว์แล้ว เค้ายังมีโชว์น้ำพุประกอบแสง สี เสียง และโชว์เด็ดๆ อีกหลายชุดให้ชมกันด้วยนะ เป็นอีกพิกัดที่เที่ยวได้เพลินเชียวละ ไม่เชื่อลองแวะมา

11. อุทยานหลวงราชพฤกษ์
จากความเพลินของการเดินชมสัตว์ทั้งหลาย เปลี่ยนมาเป็นความเพลินของการเดินชมไม้ดอกไม้ใบกันบ้างดีกว่า จากพื้นที่ซึ่งเคยใช้จัดงานพืชสวนโลกมาเมื่อ พ.ศ.2549 กลายมาเป็นสวนสวยแบบถาวรให้เราได้แวะชมกัน ไฮไลท์ยืนหนึ่งที่โดดเด่นสะดุดตาก็ต้องยกให้กับหอคำหลวง ซึ่งเป็นอาคารสวยสไตล์ล้านนาตั้งตระหง่านอยู่ตรงกลางสวนสวยขนาดใหญ่ นอกจากนั้นยังมีสวนแจ่มๆ ที่แบ่งเป็นโซนตามประเทศ รวมถึงตามชนิดและที่มาของบรรดาพรรณไม้ เราว่าเป็นพิกัดที่สายเขียวแวะดูกันได้ทั้งวันอย่างแน่นอน

12. ขุนช่างเคี่ยน
ไม่ต้องขับรถไปไกลๆ ก็มีดอกซากุระเมืองไทยให้ชมกันได้แล้วจ้า เพราะสถานีวิจัยและศูนย์ฝึกอบรมเกษตรที่สูงขุนช่างเคี่ยนแห่งนี้ เค้าอยู่ในเส้นทางเดียวกับพระธาตุดอยสุเทพนั่นละ นอกจากจะมีพืชพรรณผลไม้เมืองหนาวปลูกอยู่หลายชนิดแล้วนะ ช่วงอากาศเย็นๆ ปลายปีต้นปีแบบนี้ ที่นี่จะเต็มไปด้วยสีชมพูของดอกนางพญาเสือโคร่งซึ่งทยอยกันบานสะพรั่งให้ชมกันตั้งแต่ริมถนนไปจนถึงด้านใน เค้ามีเส้นทางเดินชมดอกไม้เอาไว้ให้เราได้ชิลล์กันด้วยนะ ดูดอกไม้เสร็จจะแวะจิบกาแฟสดรสอร่อยของที่นี่เป็นการปิดท้ายก็บอกได้ว่าเริ่ดจ้า ไม่ฟินก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว

13. ถนนคนเดินวัวลาย
อีกหนึ่งถนนคนเดินน่าสนใจกลางเมืองเชียงใหม่ที่มีให้เดินเล่นเดินช้อปกันได้ในทุกคืนวันเสาร์ โดยมีเส้นทางระยะยาวประมาณ 1 กิโลเมตร ถึงจะมีขนาดย่อมกว่าถนนคนเดินท่าแพ แต่ก็รับรองว่าไม่ธรรมดา เพราะที่นี่อัดแน่นไปด้วยสารพัดงานฝีมือสไตล์ล้านนา รวมไปถึงของกินท้องถิ่นที่น่าแวะชิมมากมาย สองฝั่งถนนนั้นมีทั้งเสื้อผ้า ของใช้ ของฝาก ขนม หรือของว่าง ให้แวะกระจายรายได้กันไปตลอดทางเลยเชียวละ เป็นอีกพิกัดที่จัดว่าเพลินและไม่ควรพลาดอีกเช่นกัน

14. วัดเจดีย์หลวง
พระอารามหลวงโบราณกลางเมืองเชียงใหม่ ซึ่งเป็นที่ตั้งของเจดีย์ที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัด มีพระวิหารหลวงทรงล้านนา ที่หน้าประตูทางเข้าพระวิหารมีบันไดนาคเลื้อยโบราณซึ่งได้ชื่อว่างดงามที่สุดของภาคเหนือเลยนะ นอกจากนั้นยังมีเสาอินทขิล หรือเสาหลักเมืองที่สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.1839 คราวที่พ่อขุนเม็งรายมหาราชสร้างเมืองเชียงใหม่โน่นเลยจ้า นับเป็นอีกหนึ่งวัดเก่าแก่ที่ยิ่งใหญ่และแนะนำว่าควรแวะไปเช็คอินให้ได้เลย

15. วัดพระธาตุดอยคำ
วัดเก่าแก่อายุกว่า 1,300 ปี ที่สร้างขึ้นตั้งแต่ในสมัยหริภุญชัย ตั้งอยู่บนดอยคำซึ่งเป็นภูเขาสูงประมาณ 200 เมตรแห่งนี้ เป็นที่ประดิษฐานองค์เจดีย์พระธาตุดอยคำ ซึ่งเป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเอาไว้ด้านใน วัดนี้จึงเป็นอีกหนึ่งสถานที่ศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองเชียงใหม่ที่ผู้คนเคารพศรัทธา ถ้ามาแล้วอย่าพลาดการไปกราบสักการะหลวงพ่อทันใจ ซึ่งเชื่อกันว่าจะช่วยเนรมิตสิ่งที่เราขอให้สำเร็จสมหวังได้รวดเร็วทันใจสมชื่อกันด้วยนะ อยากได้อะไรก็ลองมาอธิษฐานกันได้เลยจ้า ขอให้ได้ขอให้โดนกันถ้วนหน้าเลยนะ แวะมาให้ไว
นี่คือบางส่วนของพิกัดเที่ยวละแวกตัวเมืองเชียงใหม่ที่อยากชวนให้ปักหมุดแวะไปกัน ทุกแห่งนั้นเดินทางง่ายไม่ว่าจะขับรถไปหรือใช้บริการรถสาธารณะ เที่ยวได้ชิลล์ๆ ในบรรยากาศสบาย แบบไม่ต้องเสียเวลากับการเดินทางมากมายเลยนะ เอาเวลาไปเที่ยวเพิ่มได้อีกเยอะเลยละ ไม่ต้องเหนื่อยเพราะขับรถไกลๆ ด้วยนะ ช่วงนี้อากาศเชียงใหม่ดีสุดๆ เลยจ้า รีบจองตั๋วแล้วเก็บกระเป๋าไปให้ทันหน้าหนาวกันเด้อ