Tag

ที่เที่ยวเชียงใหม่

Browsing
       ลักษณะภูมิประเทศของเชียงใหมเป็นพื้นที่ภูเขา ที่ราบลุ่มแม่น้ำและที่ราบลุ่มเชิงเขาพื้นที่เป็นป่าไม้และภูเขาประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์ จึงไม่แปลกที่จะมีแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติมากมายไม่ว่าจะเป็นภูเขา น้ำตก ป่าไม้และสัตว์ป่าต่างๆ ดังนั้นจึงถือโอกาศนำเสนอ 10 สถานที่ท่องเที่ยวสายธรรมชาติที่คุณจะพลาดไม่ได้เมื่อไปเยือนเชียงใหม่ ถ้าไม่ได้ไปถือว่าน่าเสียดายสุดๆ สามารถจัดกลุ่มสถานที่ท่องเที่ยวที่โดดเด่น ดังนี้

 

ภูเขา : 1.อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์, 2.อุทยานแห่งชาติดอยฟ้าห่มปก
 ถ้ำและหน้าผา : 3.ถ้ำเชียงดาว, 4.ผาช่อ อุทยานแห่งชาติแม่วาง
น้ำตก : 5.น้ำตกแม่ยะ, 6.น้ำตกตาดหมอก
ป่าไม้ : 7.ป่าสนวัดจันทร์, 8.อ่างกา ป่าโบราณ
ทุ่งหญ้าและสวนดอกไม้ : 9.ทุ่งหญ้าสะวันนา ดอยแม่โถ, 10.ทุ่งดอกไฮเดรนเยีย ดอยขุนแปะ
10 สถานที่เที่ยวสายธรรมชาติในจังหวัดเชียงใหม่

 


ท่องเที่ยวธรรมชาติ สัมผัสอากาศบริสุทธิ์แห่งขุนเขา

 

          1. อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ : ดอยอินทนนท์เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในประเทศไทย ความสูง 2,565 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล ดังนั้น โปรแกรมแรกสุดต้องตื่นเช้ามาเดินตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติเพื่อดูทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้นที่ กิ่วแม่ปาน เป็นจุดชมวิวที่ 9 ที่สวยที่สุดอุณหภูมิช่วง 4-10 องศาเซลเซียส หลังจากนั้นแวะจิบกาแฟอุ่นๆที่ บ้านกลางหลวง เป็นหมู่บ้านชนเผ่าปกากญอ และชมวิวนาขั้นบันไดที่สวยงามในหุบเขา ต่อมาเดินทางไป สถานีเกษตรหลวงอินทนนท์ เพื่อชมดอกไม้เมืองหนาวโดยเฉพาะสวนแปดสิบพรรษามีการตกแต่งด้วยกุหลาบพันปีและไม้ดอกไม้ประดับตามฤดูกาล มีร้านอาหารโครงการหลวงรับรองว่าได้กินผักสดๆปลอดสารพิษ หลังจากนั้นแวะที่ สวนคุณทองดี ทุ่งไฮเดรนเยีย อินทนนท์ เพื่อถ่ายรูปสวยกับดอกไฮเดรนเยียสีสันสวยงามสลับกันมากกว่า 7 สี สุดท้ายชมพระอาทิตย์ตกที่ พระมหาธาตุเจดีย์นภเมทนีดลและพระมหาธาตุเจดีย์นภพลภูมิสิริ เป็นเจดีย์คู่พ่อและแม่ สร้างเพื่อถวายแด่ พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรและสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่อยู่ 119 ต.บ้านหลวง อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ 50160

 


 

 

View this post on Instagram

 

A post shared by Noo Rider (@noorider)

            2.อุทยานแห่งชาติดอยฟ้าห่มปก : ดอยผ้าห่มปกหรือดอยฟ้าห่มปก เป็นยอดเขาที่สูงเป็นอันดับ 2 ของประเทศไทย ความสูง 2,285 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล มีทุกสิ่งที่นักผจญภัยค้นหาไม่ว่าจะเป็นจุดชมวิวคลื่นทะเลหมอก/พระอาทิตย์ยามเช้าและจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกที่สวยงาม อากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปีอุณหภูมิช่วง 14-18 องศาเซลเซียส และมีลมพัดแรง การเดินป่าเขียวขจีที่ท้าทาย หลังจากนั้นนักท่องเที่ยวมักจะไปบ่อน้ำพุร้อนฝางเพื่ออาบน้ำร้อน มีลานกางเต็นท์ที่สูงที่สุดในประเทศไทย 1,924 เมตร สามารถตั้งแคมป์ไฟชมทะเลดาวบนฟ้าสามารถพูดได้ว่าเหมือนทางช้างเผือกแอบต้นไม้ สามารถเห็นดวงดาวชัดเจนมาก ที่อยู่ 224 ต.โป่งน้ำร้อน อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ 50110

 


ตะลุยถ้ำแลหน้าผา เปิดโลกลึกลับใต้ผืนดิน

 

 

View this post on Instagram

 

A post shared by 🌿 James (@ks_james1996)

                                                    
                3. ถ้ำเชียงดาว : เป็นส่วนหนึ่งของดอยหลวงเชียงดาวที่สูงเป็นอันดับ 3 ของประเทศไทย เป็นถ้ำที่มีหินงอก หินย้อยที่งดงามตระการตา นอกจากนี้ยังเป็นศาสนสถานโบราณศักดิ์สิทธิ์ที่ได้รับความเคารพจากชาวเมืองเชียงใหม่ซึ่งเคยเป็นสถานปฏิบัติธรรมของพระสงค์ก่อนที่จะมีการสร้างวัดเชียงดาวขึ้นใกล้ๆถ้ำเชียงดาว การเดินทางเข้าท่องเที่ยวถ้ำเชียงดาวต้องเดินผ่านวัดเชียงดาว ภายในถ้ำมีความยาวหลายร้อยเมตร หลังจากเข้าสู่ปากถ้ำเดินต่อไปจะเข้าสู่บริเวณถ้ำพระนอนซึ่งมีการติดตั้งระบบไฟฟ้าไว้ ภายในถ้ำเชียงดาวยังมีอีก 2 บริเวณ ซึ่งไม่มีระบบไฟฟ้าและมีความสลับซับซ้อนของเส้นทาง คือ ถ้ำม้าและถ้ำลับแล ต้องให้ไกด์นำเที่ยวท้องถิ่นพาไปเท่านั้นถึงจะเข้าได้ นอกจากจะได้ชมหินงอกหินย้อยในถ้ำแล้วบาวช่วงยังพบน้ำผุดหรือน้ำหยดลงมาอีกด้วย ภายในถ้ำพระนอนจะมีองค์พระประดิษฐานอยู่ เช่น พระพุทธรูปทันใจ, ศาลหลวงพ่อปากแดง  ภายนอกถ้ำจะมีสระมรกตซึ่งเกิดจากแหล่งน้ำจากภายในถ้ำและในตัวเขาไหลมารวมกันโอบล้อมด้านหน้าของถ้ำเอาไว้มีปลาว่ายไปมาเป็นบรรยากาศธรรมชาติ ขณะเดียวกันสามารถชมสถาปัตยกรรมตามคติของพุทธศาสนาของวัดถ้ำเชียงดาวที่ผสมผสานระหว่างศิลปพม่าและล้านนา ที่อยู่ 273 ม.5 ต.เชียงดาว อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ เปิดเข้าชมช่วงเวลา 07:00-17:00 น.

 


 

 

            4.ผาช่อ อุทยานแห่งชาติแม่วาง : นับได้ว่าเป็นสิ่งมหัสจรรย์แห่งขุนเขา หน้าผาสูงชันประมาณ 30 กว่าเมตร มีความโดดเด่น สวยงาม แปลกตา จนได้รับฉายาว่า “แกรนด์แคนยอนเมืองไทย” เกิดจากการกัดเซาะของ ลม ฝน และกระบวนการธรรมชาตินับล้านปี บริเวณนี้เคยเป็นเส้นทางของแม่น้ำปิงมาก่อน ชั้นดินเกิดการยกตัวขึ้นเป็นชั้นหินในลักษณะต่างๆ ตะกอนดินแม่ปิงทับถมกันเป็นชั้นๆผ่านกาลเวลานับล้านปี เกิดเป็นหน้าผาสูงชันและเสาดินที่มีรูปร่างแปลกตาให้เราเห็นในปัจจุบัน ตลอดเส้นทางไปยังผาช่อพบก้อนหินที่กลมมน เหมือนหินแม่น้ำเรียงตัวกันอย่างเป็นระเบียบ ที่อยู่ : ผาช่อ อุทยานแห่งชาติแม่วาง ต.สันติสูข อ.ดอยหล่อ จ.เชียงใหม่ เปิดเข้าชมช่วงเวลา 08:00-16:00 น.

 

 


แช่น้ำให้เย็นช่ำจากน้ำตก ต้นกำเนิดแหล่งน้ำทั่วไทย

 

 

View this post on Instagram

 

A post shared by jes33💚 (@chillout_jes)

 

         5.น้ำตกแม่ยะ : กำเนิดจากลำห้วยหลายสาย เช่น ขุนลำห้วยแม่ยะ ห้วยหลวง ห้วยฮ้อม ห้วยปางตอง เป็นต้น สายน้ำจากลำห้วยแม่ยะจะตกจากหน้าผาสูงชันไหลลงมาราว 30 ชั้น ซึ่งสูงกว่า 260 เมตร เป็นน้ำตกที่สวยงามอันดับต้นๆของเมืองไทย ของอุทยานแห่งชาติ ดอยอินทนนท์ มีขนาดใหญ่ ช่วงฤดูฝนสายน้ำตกจะกว้างถึง 100 เมตร ทำให้เกิดม่านน้ำไหลลงไปรวมกันที่แอ่งน้ำด้านล่างซึ่งสามารถเล่นน้ำได้อย่างปลอดภัย บางช่วงของน้ำตกจะมีชะง่อนหินสามารถเข้าไปหลบละอองไอน้ำและมองดูม่านหมอกสีขาวของน้ำตก บริเวณรอบๆน้ำตกจะเป็นป่าไม้ร่มรื่นเหมาะสำหรับเที่ยวพักผ่อน ที่อยู่ : น้ำตกแม่ยะ(อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์) ต.บ้านหลวง อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ เปิดเข้าชมช่วงเวลา 08:00-17:00 น.

 

 


 

 

         6.น้ำตกตาดหมอก : อยู่ท่ามกลางธรรมชาติหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ต.แม่แรม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ เป็นน้ำตกขนาดกลาง มีชั้นหินซ้อนกันสูง 26 เมตร น้ำไหลตกลงบนผาหินแล้วฟุ้งกระจายเป็นละอองเหมือนสายหมอกลอยยู่ในอากาศ บริเวณโดยรอบจะมีอากาศร่มรื่นและมีพันธ์ไม้มากมายหลายชนิด แต่ที่น่าสนใจคือพบต้นงุนขึ้นอยู่หน้าน้ำตกซึ่งเป็นต้นไม้ใหญ่อายุนับกว่า 100 ปี ช่วงฤดูหนาวน้ำตกจะสวยงามเป็นพิเศษ เมื่อเดินไปสัมผัสใกล้ๆจะรู้สึกถึงความเย็นสดชื่นของอากาศบริสุทธิ์ที่โอบล้อมด้วยละอองหมอกจากน้ำที่ฟุ้งกระจายของน้ำตก เปิดเข้าชมช่วงเวลา 08:00-17:00 น.

 


เยือนป่าไม้ ขุนเขา แหล่งธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์

 

 

          7.ป่าสนวัดจันทร์ : เป็นผืนป่าสนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยอยู่ในศูนย์พัฒนาโครงการหลวงวัดจันทร์ อ.กัลยาณิวัฒนา จ.เชียงใหม่ เป็นที่นิยมเที่ยวในช่วงหน้าฝนและหน้าหนาวซึ่งมีอ่างเก็บน้ำอยู่ภายในผืนป่า สิ่งที่น่าหลงไหลในการมาเที่ยวที่นี่ 1)ทะเลหมอกบนป่าสนอันกว้างใหญ่เป็นภาพของหมอกสีขาวที่ลอยอยู่เหนือแผ่นน้ำที่นิ่งสงบซึ่งสะท้อนกับท้องฟ้าและป่าสนขนาดใหญ่ที่โอบล้อมอยู่ราวกับกระจกผืนใหญ่ สวยงามมาก 2)ใบเมเปิ้ลเปลี่ยนสี ช่วงปลาย ธ.ค-ก.พ เป็นช่วงที่เหมาะสำหรับชมการเปลี่ยนสีของใบเมเปิ้ลจากสีเขียวเป็นแดงและเหลือง ไม่ต้องไปไกลถึงญี่ปุ่น 3)นอนดูทะเลดาว ยามค่ำคืนความมืดจะเข้าปกคลุมท้องฟ้า สิ่งที่เรามองเห็นบนท้องฟ้าคือ ทะเลดาวส่องแสงประกาย ระยิบ ระยับ 4)ชมดอกพญาเสือโครง ช่วงกลางเดือน ธ.ค-ม.ค สามารถเห็นดอกสีชมพูบานสพรั่งเต็มต้นของดอกพญาเสือโครงซึ่งได้ชื่อว่าเป็นดอกซากุระของเมืองไทย

 

 

          8.อ่างกา ป่าโบราณ : ป่าพรุแห่งเดียวของไทยและอยู่ที่สูง อากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี วิวทิวทัศน์ในอ่างกาจะถูกปกคลุมด้วยเมฆที่ลอยพัดผ่านเข้ามาตลอดเวลาทำให้อากาศชื้นและเต็มไปด้วยละอองน้ำทำให้ต้นไม้ในป่าจะมีมอสและเฟรินขึ้นเต็มต้น ทำให้เกิดความรู้สึกเหมือนป่าในยุคดึกดำบรรพ์ เส้นทางการเดินชมธรรมชาติจะถูกกำหนดไว้ประมาณ 300 เมตร โดยจะมีสะพานไม้ไว้เป็นทางเดินป้องกันไม่ให้เหยียบหรือทำลายธรรมชาติ มีป้ายให้ความรู้เรื่องธรรมชาติตลอดเส้นทาง แม้ว่าจะไม่ใช่ป่าทึบแต่บรรยากาศค่อนข่างจะคลื้มและเต็มไปด้วยสีเขียวเพราะร่มเงาของต้นไม้บวกกับไอแดดและไอฝน ทำให้สัมผัสได้ถึงกลิ่นไอของธรรมชาติ สามารถพบพืชที่ขึ้นเฉพาะบริเวณนี้ เช่น กุหลาบพันปี, ข้าวตอกฤาษี และนกอีกกว่า 100 สายพันธ์ที่อพยพมาจากเทือกเขาหหิมาลัย ทำให้อ่างกาเป็นแหล่งดูนกที่สำคัญ ป่าอ่างกานอกจากจะเป็นแหล่งศึกษาธรรมชาติที่สำคัญแล้วยังเป็นต้นน้ำสายแรกของสายน้ำที่หล่อเลี้ยงประเทศอีกด้วย ที่อยู่ เส้นทางศึกษาธรรมชาติอ่างกา ม.7 ต.บ้านหลวง อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่

 


ชมทุ่งหญ้าและสวนดอกไม้ที่หาชมไม่ได้ง่ายๆ

 

 

View this post on Instagram

 

A post shared by Sun (@sun_csw)

 

          9.ทุ่งสะวันนา ดอยแม่โถ : เป็นคำเรียกติดปากจากชาวบ้านที่ใช้เรียก ทุ่งหญ้าที่ดอยแม่โถ เนื่องจากระบบนิเวศน์บนดอยเป็นที่โล่งทำให้มีลักษณะเป็นพื้นที่กว้าง ร่มไม้เปิด แสงส่องถึงพื้นดินได้เพียงพอทำให้เกิดทุ่งหญ้าปกคลุมทั่วทั้งภูเขา ช่วงฤดูฝนจะเห็นความเขียวขจีของทุ่งหญ้าอันกว้างใหญ่และสายหมอกยามเช้า ทำให้เราเหมือนอยู่ในโลกจินตนาการ บนดอยแม่โถเราสามารถชมวิวทิวทัศน์ของทุ่งหญ้าได้รอบด้านถึง 360 องศาทีเดียว หากช่วงเวลาใดที่ท้องฟ้าเป็นสีครามพบว่าจะตัดกับสีเขียวของทุ่งหญ้า สวยงามมาก ที่อยู่ ดอยแม่โถ ต.บ่อสลี อ.ฮอด จ.เชียงใหม่

 

 

          10.ทุ่งไฮเดรนเยีย ดอยขุนแปะ : เป็นทุ่งดอกไฮเดรนเยียที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ มีเนื้อที่กว่า 200 ไร่ อยู่ที่ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงขุนแปะ ที่นีมีภูเขาล้อมรอบอาดาศดี ช่วงเช้าอากาศเย็นสบาย ดอกไอเดรนเยียจะบานตลอดช่วง ต.ค-ก.พ เราไม่ต้องไปดูดอกไฮเดรนเยียถึงเวียดนาม ที่นีมีดอกไฮเดรนเยียหลายสี เช่น สีฟ้า, สีม่วง, สีขาว, สีชมพู ดอกมีเยอะมากสวยไม่แพ้ของเวียดนามและญี่ปุ่นเลย ถ่ายรูปได้เพลินๆ เกินห้ามใจ ได้ทุกมุม ที่อยู่ ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงขุนแปะ ต.บ้านแปะ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่

 


            สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่แนะนำไปทั้ง 10 แห่ง คงจะสามารถสร้างแรงบรรดาลใจให้นักท่องเที่ยวแสวงหาความสูขในแบบที่ท่านและครอบครัวชอบและมีความสูข ครั้งต่อไปจะมีแหล่งท่องเที่ยวแบบไหนที่น่าสนใจคอยติดตามกันในบทความหน้านะครับ
         เชียงใหม่เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ความหลากหลาย สำหรับนักท่องเที่ยวที่มากันแบบครอบครัว(พ่อ/แม่/ลูก) ผมจะแนะนำ 10 สถานที่เที่ยวที่สุดฟินและน่าตื่นตาสำหรับเด็กและพ่อ-แม่ ได้ทั้งความสนุก ความรู้ และความเพลิดเพลิน สามารถจัดเป็น กลุ่ม ดังนี้ แนวสัมผัสธรรมชาติ : 1.ห้วยตึงเฒ่า 2.น้ำพุร้อนสันกำแพง ชมต้นไม้และดอกไม้ : 3.สวนสวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิจ 4.สวนพฤกษศาสตร์ทวีชล ชมชีวิตสัตว์ : 5.ปางช้างแม่สา 6.สวนสัตว์แมลงสยาม ชมสิ่งมหัสจรรย์ตระการตา : 7.หมู่บ้านลึกลับ เมืองไดโนเสาร์ 8.พิพิทภัณฑ์รูปภาพ 3 มิติ 9.แกรนด์แคนยอน วอเตอร์พาร์ค เชียงใหม่ 10.บ้านไม้หอมฮิโนกิ

 

10 สถานที่เที่ยวสำหรับเด็กในจังหวัดเชียงใหม

 

แนวสัมผัสธรรมชาติ

 

 

1.ห้วยตึงเฒ่า : พื้นที่ของโครงการหมู่บ้านตัวอย่างตามพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 9 และเป็นที่ตั้งของอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ห้วยตึงเฒ่า สถานที่ฮิตที่นักท่องเที่ยวนิยมกันมากมี 3 แห่ง คือ 1)แกะยักษ์แม่-ลูกและลานน้องแกะห้วยตึงเฒ่า ขนของแกะยักษ์มาจากขนของแกะจริงๆซึ่งบริเวณใกล้เคียงจะมีลานเป็นทุ่งเลี้ยงแกะเหมือนต่างประเทศ มีแกะเดินเล่นท่ามกลางทุ่งหญ้า สามารถซื้ออาหารป้อนน้องแหะได้อย่างใกล้ชิด 2)คิงคองยักษ์ พ่อ-แม่-ลูก เป็นปติมากรรมหุ่นฟางตัวใหญ่มหึมาตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางทุ่งนาสีเขียวเด็กๆเห็นต้องตื่นตาตื่นใจสามารถปีนขึ้นไปถ่ายรูปได้ มีสะพานไม้ไผ่เป็นแนวทางเดินทอดยาว มีบ้านซูตองเป้กลางทุ่งนาให้เด็กสามารถสัมผัสบรรยากาศได้อย่างใกล้ชิดและยังมีหุ่นฟางของสัตว์อื่นๆอีกอยู่บริเวณใกล้เคียง 3)อ่างเก็บน้ำ บรรยากาศดีมากมีร้านอาหารเรือนแพริมน้ำเรียงรายอยู่โดยรอบสามรถทานอาหารชิวๆกันอย่างมีความสุขทั้งครอบครัว อยู่ที่ ต.ดอนแก้ว อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ เปิดบริการช่วงเวลา 06:30-18:00 น.

 

 


 

2. น้ำพุร้อนสันกำแพง : เป็นน้ำพุที่มีชื่อเสียงครอบคลุมพื้นที่ 75 ไร่ ภายในจะแบ่งเป็น 2 โซน คือ 1)โซนน้ำพุร้อน แบ่งเป็น 2 ส่วน เป็นบ่อน้ำร้อน อุณหภูมิน้ำสูงถึง 105 องศาเซลเซียส มีน้ำพุร้อนฉีดพ่นสูงขึ้นมา 15 เมตร เป็นบ่อที่สามารถต้มไขได้ และ บ่อน้ำอุ่น มีทั้งตักอาบ, แช่เท้า, สระว่ายน้ำ ที่เป็นน้ำแร่ทำให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้นบรรเทาอาการปวดเมื่อยตามข้อและกล้ามเนื้อ 2)สวนดอกไม้และสนามหญ้าที่ปลูกให้ชมอย่างสวยงาม มีร่มเงาของต้นไม้ทำให้รู้สึกร่มรื่นเป็นธรรมชาติ อยู่ที่ ม.7 ต.บ้านสหกรณ์ อ.แม่ออน จ.เชียงใหม่ บริการช่วงเวลา 07:00-18:00 น.

 

 


ชมต้นไม้และดอกไม้

 

 

3. สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ : เป็นสวนระดับนานาชาติที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย รวมพันธ์ไม้ทั้งในและต่างประเทศ เปิดให้ชม 4 โรงเรื่อนใหญ่และ 8 โรงเรือนเล็ก ดังนี้ 1)โรงเรือนป่าดิบชื้น 2)เรือนไม้น้ำ 3)เรือนกล้วยไม้และเฟิร์น 4)เรือนพืชทนน้ำ 5)เรือนรวมพรรณบัว 6)เรือนแสดงพันธ์สัปปะรดสี 7)เรือนแสดงบอนสีและบอนหน้าวัว 8)เรือนแสดงส้มกุ้ง 9)เรือนแสดงไม้ดอกไม้ประดับ 10)เรือนแสดงไม้ไทยหายาก 11-12)เรือนแสดงพืชสมุนไพร นอกจากนี้ยังมีเส้นทางเดินเพื่อศึกษาธรรมชาติ เช่น เส้นทางสวนรุขชาติ, เส้นทางไม้เลื้อย ภายในพื้นที่ยังมีพิพิทธพันธ์ธรรมชาติและอาคารจัดนิทรรศการเพื่อให้ความรู้ทางพืช ธรรมชาติวิทยาและสิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวกับพืชแบ่งเป็น 6 ส่วน ดังนี้ 1)เทิดพระเกียรติสมเจพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ 2)ความหลากหลายทางชีวภาพ 3)ก้าวแรกของนักพฤกษศาสตร์ในประเทศไทย 4)ผจญภัย 10 ป่าไทย 5)มหัสจรรย์ผึ้งและดอกไม้ 6)ภาพ 3 มิติ ที่นี่มีทางเดินลอยฟ้าเพื่อเดินชมธรรมชาติที่ยาวที่สุดในประเทศไทยระยะทางประมาณ 400 เมตร สูงเหนือกว่าพื้นดิน 20 เมตร ทำให้สามารถชมทัศนียภาพของธรรมชาติที่สวยงามแบบพาโนรามา ซึ่งกลมกลืนกับธรรมชาติโดยรอบ ที่อยู่ 100 ม.9 ต.แม่แรม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ บริการช่วงเวลา 08:30-16:30 น.

 

 


 

 

4. สวนพฤกษศาสตร์ทวีชล : มีพื้นที่ 302 ไร่ ประกอบด้วย 4 ส่วน ที่สำคัญ 1)เป็นศูนย์รวมพันธ์ไม้นานาชนิด แบ่งออกเป็น 4 กระโจม ดังนี้ กระโจมที่1 ประกอบด้วยกล้วยไม้ป่า ต้นสับปะรดสีชนิดต่างๆ กระโจมที่2 น้ำตกจำลองซึ่งรายล้อมด้วยต้นเฟิร์น ปาล์ม ไม้ใบต่างๆ ใต้น้ำตกเต็มไปด้วยปลาคราฟว่ายไปมา กระโจมที่ 3 เป็นกลุ่มไม้ใบชนิดต่างๆ เช่น ฟิโลเดนดรอน, ต้นหม้อข้าวหม้อแกงลิง, อโกลนีมา, หน้าวัวใบ, เฟิร์น, หวาย, แคทลียา กระโจมที่ 4 เป็นพวกแคคตัสและไม้ไม้อวบน้ำกว่า 200 ชนิด 2)สวนไม้ดัด ซึ่งดัดเป็นรูปทรงสัตว์ต่างๆ เช่น คิงคองสูง 6 เมตร, ยีราฟ, พญานาค ยาว 130 เมตร, ไม้ดัด 12 ราศรีพร้อมคำพยากรณ์ 3)สวนสัตว์ โดยสัตว์ที่นำมาแสดงได้แก่ นกกระจอกเทศ, กวาง, อูฐ เป็นต้น 4)พิพิทภัณฑ์ ประกอบด้วย 4 ห้อง คือ ห้องประดิษฐานพระแก้วขาวจำลอง, ห้องเจ้าดารารัสมี, ห้องชายหาญและห้องธารสิน อยู่ที่ 118 ม.7 ต.เชิงดอย อ.ดอยสะเก็ต จ.เชียงใหม่ เปิดบริการช่วงเวลา 08:30-17:00 น.

 


 ชมชีวิตสัตว์

 

 

View this post on Instagram

 

A post shared by 🍑WIWWIW🍑 (@wiwkanapat)

 

5. ปางช้างแม่สา :  เป็นหมู่บ้านช้างที่ใหญ่ที่สุดในภาคเหนือของประเทศไทย นักท่องเที่ยวจำนวนมากมีความต้องการใช้ชีวิตแบบควาญช้างและสัมผัสช้างอย่างใกล้ชิด ทางป้างช้างแม่สาจึงจัดกิจกรรมที่เรียกว่า บ้านควาญช้างบริการนักท่องเที่ยว เช่น การนั่งช้างบนแหย่ง, การทำอาหารช้าง, การให้อาหารช้าง, พาช้างกินน้ำ, พาช้างออกกำลังกายเล่นโคลน, การอาบน้ำช้าง และการทำงานศิลปกับช้าง รับรองว่าประทับใจอย่างแน่นอนซึ่งช้างทุกเชือกเป็นมิตรและคุ้นเคยกับนักท่องเที่ยวมาก อยู่ที่ 119/9 1096 อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ เปิดบริการวันธรรมดาช่วงเวลา 09:00-15:30 น. วันหยุดเสาร์-อาทิตย์เปิดบริการวันธรรมดาช่วงเวลา09:00-16:00 น.

 

 


 

 

6. สวนสัตว์แมลงสยาม : สามารถแบ่งเป็น 2 โซน คื่อ 1)พิพิทภัณฑ์การเรียนรู้ ชมตัวอย่างแมลงสะสมนานาชนิดจากทั่วโลกที่หาชมได้ยาก แปลกๆ สวยๆ นานกว่า 30 ปี พร้อมนิทัศการทางวิชาการหลากหลายด้านกีฏวิทยา 2)แมลงมีชีวิต มีการเพาะเลี้ยงและศึกษาวิจัยแมลงและแมงต่างๆ เช่น สวนผีเสื้อในกรงขนาดใหญ่, โลกของด้วงก่อนเปลี่ยนเป็นแมลง, แมงมุมยักษ์, แมงป่อง, ตั๊กแตนตำข้าว, ตั๊กแตนกิ่งไม้, ตั๊กแตนใบไม้, จิ้งหรีด, แมลงสาบยักษ์ เป็นต้น รับรองว่าเด็กจะเพลิดเพลินและสนุกไม่รู้เบื่อ ที่อยู่ 23/4 ม.1 ต.แม่ริม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ เปิดบริการช่วงเวลา 09:00-17:00 น.

 

 


ชมสิ่งมหัศจรรย์ตระการตา

 

 

7. หมู่บ้านลึกลับ เมืองไดโนเสาร์ : สถานที่รวบรวมรูปปั้นสัตว์ต่างๆ ให้เด็กๆได้เรียนรู้ ในแบบขนาดยักษ์ทำให้ตื่นตาตื่นใจพาเดอนชมกันเพลินเลย แบ่งเป็นโซนต่างๆ ดังนี้ 1)หมู่บ้านไดโนเสาร์ มีรูปปั้นขนาดยักษ์ของไดโนเสาร์มากมายหลายพันธ์และที่สำคัญเขาทำให้มันขยับได้ด้วย 2)สวนปูนปั้นป่าแมลงยักษ์เน้นไปที่แมลงและสัตว์ขนาดจิ๋ว แต่ปั้นขึ้นให้มีขนาดใหญ่ยักษ์ เช่น ผีเสื้อ, กิ้งกือ, ตั๊กแตน, แมงมุม, หนอน 3)หมู่บ้านสัตว์ เราสามารถซื้ออาหารสัตว์เพื่อป้อนสัตว์ต่างๆได้ เช่น กระต่าย, แกะ, หมูแคระ, ปลาคาฟ 4)สนามเด็กเล่น เด็กๆสามารถปลดปล่อยพลังในการวิ่งเล่น มีของเล่นหลายชนิดและหลายแบบ ยังมีบ่อทราย บ้านต้นไม้ 5)สวนสนุก มีเครื่องเล่นสำหรับเด็ก 6)ร้านอาหาร มีอาหารหลายแบบหลายแนวให้ลูกค้าได้เลือกสรร นอกจากโซนต่างๆที่ได้กล่าวมาแล้วยังมีบริการนั่งรถม้าวนรอบๆ Hidden Village อีกด้วย  อยู่ที่ 77/19 ม.7 ต.สันผีเสื้อ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เปิดบริการโซนหมู่บ้าน ช่วงเวลา 09:00-19:00 น. ส่วนร้านอาหาร ช่วงเวลา 10:00-21:00 น.

 

 


 

View this post on Instagram

 

A post shared by Manon (@mnn.brt)

 

8. Art in Paradise Chiang Mai พิพิธภัณฑ์รูปภาพ 3 มิติ : เป็นพิพิธภัณฑ์รูปภาพ 3 มิติ ภาพวาดลวงตาที่ให้คนสามารถเข้าไปมีส่วนร่วมในภาพซึ่งจะมีมิติเสมือนจริงทั้งส่วนลึก ส่วนนูน โดยใช้เทคนิควาดภาพแบบพิเศษคู่กับการจัดแสงเงาซึ่งต้นแบบของภาพมาจากพิพิธภัณฑ์ ภาพ 3 มิติในประเทศเกาหลี ที่เชียงใหม่นับเป็นสาขาที่ 2 ของ Art Paradise ต่อจากพัทยา ก่อตั้งโดย คุณ จาง กิว ช๊อก ชาวเกาหลี สร้างสรรค์ภาพโดยจิตรกรมืออาชีพจากเกาหลีจำนวน 14 ท่าน สร้างผลงานภาพวาด 3 มิติ ภายในพิพิธภัณฑ์มากกว่า 130 ภาพ แบ่งออกได้เป็น 6 โซนใหญ่ ได้แก่ 1)โลกใต้ท้องทะเล มีสัตว์ทะเลหลากหลายชนิด 2)ผู้เยี่ยมชมสามารถออกแบบท่าทางการถ่ายภาพตามความชอบ 3)สัตว์ป่า เป็นภาพสัตว์ท่าทางต่างๆ 4)คลาสสิกอาร์ต นำภาพของจิตรกรระดับโลกมาเติมความสนุกแบบ 3 มิติ 5)ภาพเมือง แถบยุโรปให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในสถานที่จริง แถบตะวันออกเป็นภาพสถาปัตยกรรมทั้งเกาหลี ไทย และเขมร แถบอียิปต์โบราณสัมผัสบรรยากาศแห่งทะเลทรายและสุสานฟาโรห์ 6)ศิลปเหนือจริงและสัตว์โลกล้านปี รวบรวมภาพวาดหลายแบบผู้ชมสามารถจินตนาการได้อย่างอิสระเพื่อความสนุกสนานและเสมือนจริง อยู่ที่ 119/9 ถ.ช้างคลาน ต.ช้างคลาน อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เปิดบริการช่วงเวลา 10:00-20:00 น.

 

 


 

 

9. Grand Canyon Water Park แกรนด์แคนยอน วอเตอร์พาร์ค เชียงใหม่ : สวนน้ำธรรมชาติแห่งเดียวของภาคเหนือ มีเนื้อที่ถึง 35 ไร่ เมื่อ 10 ปีที่แล้วเจ้าของได้ขุดหน้าดินไปขายทำให้เกิดแองน้ำขนาดใหญ่มีความลึกตั้งแต่ 15-20 เมตร บางบ่อลึกถึง 50 เมตร น้ำภายในเองจึงมีสีเขียวใสเหมือนสีมรกต บ่อเหล่านี้ถูล้อมรอบด้วยหน้าผาสูงให้อารมณ์เหมือนแกรนด์แคนยอนในอเมริกา มีการแบ่งโซนการเล่นน้ำและเครื่องเล่นต่างๆ ดังนี้ 1)สวนน้ำเด็กพร้อมเครื่องเล่นไฟเบอร์กลาสขนาดใหญ่ มีสไลเดอร์ให้ลูกค้า 2)เครื่องเล่นลอยน้ำ เป็นเครื่องเล่นลอยน้ำขนาดยักษ์ที่รวบรวมความสนุก ความท้าทายและมีความแข็งแรงได้มาตรฐาน 3)สไลเดอร์ยักษ์ ขนาดความยาว 10 เมตร 4)แทรมโพลีนลอยน้ำ สนุกสุดมันส์กับการกระโดดน้ำด้วยแทรมโพลีนลอยน้ำ 5)ชิปไลน์ 3 สเตชั่น ความยาวกว่า 400 เมตร 6)เวคบอร์ด เครื่องเล่นแนวผาดโผน ควบคุมการเล่นด้วยระบบสายเคเบิ้ลพร้อมสิ่งกีดขวาง 6)จิงโจ้น้ำ พาหนะที่จะทำให้เพื่อนๆกระโดดบนผิวน้ำ เพื่อทยานออกไปข้างหน้า 7)เรื่อคายัก สำหรับสายชิลที่ต้องการพักผ่อนด้วยพื้นที่การพายเรือที่กว้างขวาง อยู่ที่ 202 ม.3 ต.น้ำแพร่ อ.หางดง จ.เชียงใหม่ เปิดบริการช่วงเวลา 08:00-19:00 น.

 

 


 

 

View this post on Instagram

 

A post shared by Pakka Pakkapoy (@pakkapoy)

 

10. Hinoki land บ้านไม้หอมฮิโนกิ : บ้านสนหลังแรกของประเทศไทย เป็นอาคารสถาปัตยกรรมจากยุคเอโดะท่มีปราสาทไม้สนสีทองอล่ามโดดเด่นเป้นประกาย ประกอบด้วยสิ่งปลูกสร้าง 6 หลัง โดยมีการพัฒนาพื้นที่ถึง 83 ไร่ เริ่มต้นจากทางซุ้มประตูทางเข้าซึ่งจำลองซุ้มประตูอสุนีของศาลเจ้าซากุสะ โดดเด่นด้วยโคมสีแดง ถัดมาเป็นห้องโถงต้อนรับให้บริการเช่าชุดกิโมโน เมื่อพ้นจากโถงต้อนรับก็จะพบกับอุโมงเสาโทริอิจำรอง 88 ต้น เชื่อมพื้นที่ส่วนหน้าถึงด้านในโดยอุโมงจะพาไปบรรจบกับลานหน้าปราสาทฮิโนกิ ปราสาทสร้างขึ้นจากไม้สนฮิโนกิทั้งหลังตามแบบปราสาทดั้งเดิมของโชกุนโดยจำลองให้มีขนาดใหญ่กว่าปราสาททองคินคาคุจิในเมืองโตเกียวถึง 3 เท่าปราสาทมีทั้งหมด 4 ชั้นแต่ละชั้นมีระเบียงเผยให้เห็นทิวทัศน์ของภูมเขาที่อยู่ล้อมรอบด้านหลังของปราสาทเป็นบ่อปลาคาร์ปขนาด 8 ไร่ พื้นผิวสีทองภายในปราสาทอบอวนด้วยกลิ่นของน้ำมันในเนื้อไม้สร้างสุนทรีย์ภาพในการการสัมผัส ชั้นบนสุดของปราสาทเป็นที่ประดิษฐานขององค์เจ้าแม่กวนอิมที่แกะสลักจากไม้สนฮิโนกิ ด้านข้างของบริเวณปราสาทจะเป็นอาคารแสดงสินค้า จัดแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของ บริษัท บ้านไม้หอมฮิโนกิไชยปราการ นอกจากนี้ยังมีอาคารเจเปนทาวน์จำหน่ายสินค้านำเข้าจากญี่ปุ่น พ่วงด้วยร้านอาหารญี่ปุ่นสูตรต้นตำหรับเสิร์ฟโดยพ่อครัวชาวอาทิตย์อุทัย ส่วนอาคารที่อยู่ใกล้ลานจอดรถเป็นฟู้ดคอร์ตที่ต้อนรับนักเดินทาง ที่อยู่ 3 ต.ปงตำ อ.ไชยปราการ จ.เชียงใหม่ บริการช่วงเวลา 08:00-18:00 น.

 


รับรองว่า 10 สถานที่เที่ยวที่นำเสนอจะคุ้มค่า คุ้มราคา และโดนใจเด็กๆ และพ่อแม่เป็นการเดินทางที่มีความสูข สนุกสนาน ทั้งครอบครัวเลยก็ว่าได้ สุดท้ายต้องขอลากันไปก่อนคอยติดตามความสนุกกับสถานที่เที่ยวใหม่ๆ ในบทความหน้ากันนะครับ

 

       เชียงใหม่ เมืองฮิตแห่งภาคเหนือ ไม่ว่าจะชาวไทยเองหรือต่างชาติก็อยากจะมาเที่ยวเมืองล้านนาแห่งความทันสมัยนี้ เชียงใหม่มีสถานที่ท่องเที่ยวเยอะมาก มีพื้นที่ภูเขาถึงร้อยละ 80 ของจังหวัด จึงมีสภาพอากาศเย็นสบาย  นอกจากนั้นแล้วยังมีสไตล์และอารยธรรมเป็นของตัวเอง เรื่องอาหารก็อร่อยมีเสน่ห์ชวนลิ้มลอง องค์ประกอบทั้งหมดนี้จึงเป็นสิ่งที่ดึงดูดความสนใจให้คนอยากมาทำความรู้จักและใช้เวลาในการพักผ่อนหย่อนใจที่เชียงใหม่ พร้อมแล้วไปดูกันดีกว่าว่าที่เที่ยวเชียงใหม่เหมาะกับทริปหน้านี้จะมีที่ไหนบ้างให้คุณเลือก
           การเดินทางก็สะดวกสบายมีสายการบินให้บริการหลากหลาย เที่ยวบินมีทุกวัน กรุงเทพ-เชียงใหม่ ระยะทาง 584 กิโลเมตร ประมาณ 1.15 ชั่วโมง ใครจะไปเที่ยวเชียงใหม่ก็สามารถเช็คราคาและ จองตั๋วเครื่องบินไปเชียงใหม่ กับ Traveloka Travel & Lifestyle Super App ได้นะ >> https://www.traveloka.com/th-th/flight/to/Chiang-Mai.CNX เพราะเค้ามีลดราคาตั๋วเครื่องบินอยู่บ่อยๆ ทั้งจองง่าย สะดวก รวดเร็ว มีช่องทางการจ่ายเงินให้เลือกเยอะมาก และมีทั้งที่พัก ตั๋วเครื่องบิน และรถเช่าให้พร้อมเลย และก่อนไปเที่ยวอย่าลืมเช็คมาตรการจังหวัดกันด้วย ที่นี่
จองรถรับส่งสนามบินเชียงใหม่ กับ Traveloka ไลฟ์สไตล์ซูเปอร์แอป > https://www.traveloka.com/th-th/airport-transfer
บริการรถเช่า หรือเช่ารถเชียงใหม่ กับ Traveloka ไลฟ์สไตล์ซูเปอร์แอป > https://www.traveloka.com/th-th/car-rental

แจกแพลนเที่ยวเชียงใหม่ 20 ที่เที่ยวเชียงใหม่ เหมาะกับไปทริปหน้า

 


1. บ้านแม่กำปอง

 

 

        บ้านแม่กำปองเป็นสถานที่ท่องเที่ยวฮอตฮิตมาสักพักแล้ว แม้กระทั่งตอนนี้ก็ยังถูกจดไว้ในลิสต์ที่เที่ยวเชียงใหม่ของใครหลายคน ด้วยบรรยากาศที่เรียบง่ายให้ฟีลญี่ปุ่นเบาๆ ที่นี่จึงได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวมากมาย บวกกับมีอากาศดี เย็นสบายจะมาช่วงไหนของปีก็ได้สัมผัสความเย็นนั้น เรื่องของกินก็ไม่แพ้ใคร เพราะบ้านแม่กำปองดังเรื่องสตีทฟู้ด เดินไปกินไป หยุดร้านนั้นทีร้านนี้ที ไม่ว่าจะเดินผ่านร้านไหนก็อยากแวะชิมอาหารไปทุกร้าน

2. สวนสนบ่อแก้ว

 

 

      เที่ยวชิล ชมธรรมชาติ สูดรับอากาศดีๆ ต้องมาที่สวนสนบ่อแก้ว สัมผัสสวนสนบนพื้นที่กว่า 2,072 ไร่ ยืนเรียงต้นสูงเป็นแนวขนาบสองข้างถนน เดินชมได้เพลินๆ ยิ่งตอนแสงแดดส่องผ่านใบสนลงมาจะได้ถ่ายภาพออกมาละมุนตาสวยทวีคูณ เป็นอีกสถานที่ที่กำลังได้รับความสนใจ ด้วยอุณภูมิที่เย็นฉ่ำตลอดปี ผู้คนจึงทยอยกันมาเที่ยวเรื่อยๆ ไม่แออัด ใครไม่ชอบความวุ่นวายเดินชิลมาก ถึงจะเป็นพื้นที่ธรรมชาติแต่รอบๆ ก็ยังมีร้านอาหารและคาเฟ่ให้บริการประปราย หากเดินเล่นจกหมดแรงก็นั่งพักเติมพลังกันได้

 


3. ประตูท่าแพ

 

 

       ไปถ่ายรูปแนวๆ กับนกพิราบที่ประตูท่าแพกัน กำแพงอิฐส้มมองเห็นเด่นแต่ไกล ด้วยสีที่สดใสนี้เลยกลายเป็นจุดเรียกนักท่องเที่ยวได้ดีเยี่ยมจนอดใจโพสท่าสวยๆ ไม่ได้ พอได้รูปจนพอใจก็ไปเดินเล่นต่อที่ถนนคนเดินท่าแพ ตลาดยาวออกไปทางถนนราชดำเนินจนถึงวัดพระสิงห์ รวมๆ ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร แต่จะมีแค่วันอาทิตย์เท่านั้นนะ เปิดตั้งแต่หกโมงเย็นไปถึงสี่ทุ่มเลย เพราะงั้นไม่ต้องกลัวแดดร้อน ด้านในก็จะเต็มไปด้วยร้านค้า มีสินค้าพื้นเมืองอย่างเสื้อผ้า กระเป๋า งานฝีมือต่างๆ อาหาร เครื่องดื่ม เรียกได้ว่าได้ทั้งของฝากและอิ่มท้องในคราวเดียว

4. สวนกุหลาบห้วยผักไผ่

 

 

       ไม่ต้องรอถึงฤดูหนาวก็ชมสวนดอกไม้ได้ สวนกุหลาบห้วยผักไผ่ อยู่ที่ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงทุ่งเริง สถานที่ท่องเที่ยวแนวธรรมชาติ รวบรวมหลากหลายสายพันธุ์กุหลาบถึง 180 สายพันธุ์ บานสะพรั่งส่งกลิ่นหอมไปทั้งอาณาบริเวณ เดินไปทางไหนก็ถูกโอบล้อมด้วยกุหลาบหลากสี ใกล้ชิดกว่านี้ไม่มีอีกแล้วเพราะทุกคนจะได้นั่งทานอาหารท่ามกลางสวนกุหลาบ เป็นการเปิดประสบการณ์ไปอีกแบบ เมนูส่วนใหญ่จะเป็นอาหารเพื่อสุขภาพอย่างน้ำพริก สลัด และเครื่องดื่มสมุนไพร หากติดใจก็มีผลิตภัณฑ์โครงการหลวงให้ซื้อติดไม้ติดมือกลับบ้านได้ด้วย นับว่าเป็นอีกสถานที่ที่แนะนำอยากให้มา

5. โป่งแยง ซิปไลน์ แอนด์ จังเกิ้ล โคสเตอร์

 

 

      หน้าร้อนนี้ชวนชาวแก๊งไปเที่ยวแบบลุยๆ ผจญภัยสุดตื่นเต้นที่ โป่งแยง ซิปไลน์ แอนด์ จังเกิ้ล โคสเตอร์ กันดีกว่า อุปกรณ์เครื่องเล่นเพียบ ถ้าชอบความท้าทายด้านความเร็วต้องเจอกับ Jungle Coaster วิ่งด้วยความเร็ว 40 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่ถ้าชอบเล่นของสูงต้องไปปั่นจักรยาน Jungle Bike หรือโหน Giant Swing ที่สูง 10 เมตร ก็เร้าใจดี และยังมีเครื่องเล่นอื่นๆ อย่าง Zipline 36 สถานี, Quick Jump, Slider สนุกไม่มีเบื่อ อีกสิ่งที่ห้ามพลาดเลยคือการนั่ง Jungle De Cafe คาเฟ่ริมน้ำตก บรรยากาศดี อาหารอร่อย กิจกรรมแน่นขนาดนี้ต้องมาแล้ว

 


6. สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์

 

 

         หนีเมืองแล้วไปสูดอากาศบริสุทธิ์ให้ชุ่มฉ่ำหัวใจที่ สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ เป็นแหล่งท่องเที่ยวพักผ่อนอยู่ได้ทั้งวัน มีที่ให้เดินมากมาย มีโรงเรือนกระจกขนาดใหญ่แบ่งตามลักษณะของพันธุ์พืช ส่วนไฮไลท์ที่มาถึงแล้วห้ามพลาดเลยคือ Canopy walkway ทางเดินลอยฟ้าที่ยาวที่สุดในประเทศไทย สูงจากพื้นถึง 20 เมตร และยาว 400 เมตร เดินชมเหล่าต้นไม้ไปถ่ายรูปไปด้วย ลมพัดเย็นสบายแถมร่มรื่นจนลืมไปเลยว่าใช้เวลาเดินไปนานเป็นชั่วโมงแล้ว

 


7. พิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัยใหม่เอี่ยม

 

 

         สายอาร์ต ชอบเสพงานศิลป์ มาเที่ยวเชียงใหม่คราวนี้ต้องไปพิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัยใหม่เอี่ยม พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เป็นการโชว์คอลเลคชั่นศิลปะส่วนตัวของผู้ก่อตั้งคือคุณฌอง มิเชล เบอร์เดอร์เลย์, คุณพัฒศรี บุนนาค และ คุณเอริค บุนนาค บูทซ์ ได้เก็บรวมรวมไว้มากว่า 30 ปี มีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้ทุกคนที่รักในงานศิลปะ เมื่อได้อินและใช้เวลากับความเงียบสงบตอนชมผลงานภายในจนพอใจแล้ว จะไม่พูดถึงรูปลักษณ์อาคารก็คงไม่ได้ เพราะดูโดดเด่นสมเป็นพิพิธภัณฑ์แห่งศิลปะจริงๆ การออกแบบที่เหมือนหุ้มอาคารโดยใช้กระจกนั้นก็เป็นอาร์ตอีกอย่างหนึ่ง จะเห็นได้ว่ากระจกของตัวอาคารสะท้อนเห็นต้นไม้เต็มไปหมด ทำให้ดูกลมกลืนกับบริบทแต่ก็น่าสนใจในเวลาเดียวกัน แปลกตาแต่ก็สวยดี

 

 


8. ฮิโนกิแลนด์

 

 

         เที่ยวเชียงใหม่แต่ได้ฟีลญี่ปุ่น ฮิโนกิแลนด์ อาณาจักรญี่ปุ่นโบราณแห่งเดียวในประเทศไทย บนเนื้อที่ 83 ไร่ วิวดีล้อมรอบด้วยภูเขาและธรรมชาติสิ่งที่สร้างความตื่นเต้นให้นักท่องเที่ยวเลยคือปราสาทไม้ฮิโนกิที่ทำจากไม้สนชนิดมีกลิ่นหอมซึ่งหายากและไม่เหมือนใคร อลังการสูงถึง 4 ชั้น เหมือนได้เทเลพอร์ตไปอยู่ที่ญี่ปุ่นจริงๆ เลย นอกจากอาคารสวยๆ แล้วที่นี่ยังสามารถเช่าชุดยูกาตะมาถ่ายรูปเล่นได้แบบไม่จำกัดชั่วโมง บอกเลยว่าสุดคุ้ม อย่าลืมแวะไปถ่ายรูปกับอุโมงค์เสาโทริอิด้วยนะ ต้องถ่ายรูปทุกจุดแล้วโชว์ว่ามาถึงแล้วนะฮิโนกิแลนด์

 


9. สวนสัตว์เชียงใหม่

 

 

         หนีร้อนไปชมสัตว์ป่า ไปดูว่าโคอาล่าน่ารักขนาดไหน ใครที่รู้สึกว่านานแล้วนะที่ไม่ได้พบเจอสัตว์อย่างอื่นที่ไม่ใช่มนุษย์เลย งั้นลองเปลี่ยนบรรยากาศพบเจอกับสัตว์สปีชีส์อื่นกันดีกว่า สวนสัตว์เชียงใหม่ก็ดูเข้าท่ามีสัตว์ให้ดูหลายชนิดกว่า 7,000 ตัว เลยทีเดียว ที่สำคัญมีสัตว์เมืองหนาวด้วย ที่นี่แบ่งโซนออกชัดเจนเดินไม่มีหลง ถ้าสัตว์น้ำจะอยู่ Chiang Mai Zoo Aquarium ส่วน Chiangmai Zoo Snow Dome จะเป็นที่รวบรวมประเภทสัตว์ที่ต้องอยู่ที่อุณหภูมิต่ำ ถามว่าต้องต่ำขนาดไหนก็ -7 องศา เท่านั้นเอง และโซนสุดท้ายคือพื้นที่สวนสัตว์เปิด ซึ่งมีสัตว์ที่ปล่อยอยู่ตามธรรมชาติถึง 200 ตัว เรียกได้ว่าเยอะหนำใจเดินดูได้ทั้งวัน

 


10. อ่างเก็บน้ำห้วยตึงเฒ่า

 

 

          อ่างเก็บน้ำห้วยตึงเฒ่าขึ้นชื่อว่าเป็นทะเลเชียงใหม่วิวสวย ด้วยความที่มีทรายรอบๆ อ่างเก็บน้ำจึงทำใด้ดูคล้ายชายหาด อีกทั้งยังมีแบล็คกราวของดอยสุเทพ ทำให้นักท่องเที่ยวรู้จักที่แห่งนี้และอยากมาเห็นทะเลเชียงใหม่กับตาตัวเอง ไหนๆ มาถึงทั้งทีขอเล่นน้ำสักหน่อย ปลอดภัยหายห่วงเพราะมีบริการห่วงยางให้ด้วย หรือใครจะทำอย่างอื่นที่นี่ก็มีพายเรือ ตกปลา ปั่นจักรยาน กิจกรรมแน่นเอียด หากไม่อยากให้ตัวเปียกก็มีอีกโซนให้ไปเดินเล่นถ่ายรูปกับคิงคองยักษ์ที่ทำจากฟาง ตัวใหญ่สุดสูง 8 เมตร เลยทีเดียว จบด้วยการเดินรับลมชมวิวทุ่งนาที่สะพานไม่ไผ่ก็บรรยากาศดีไม่แพ้กัน

11. เขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล

 

          สายชอบเที่ยวแบบเงียบสงบ ไร้ความวุ่นวาย ต้องมาเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล เขื่อนแห่งนี้มีกระแสเป็นที่นิยมสำหรับนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมากเพราะสามารถเที่ยวได้และมีที่พักด้วย อีกทั้งมีบรรยากาศดี วิวสวย มองเห็นภูเขาเขียวขจีได้เต็มตา ไม่แปลกเลยที่ใครๆ ก็อยากมา นอกจากจะได้มาพักผ่อนชิลแล้วก็ยังมีกิจกรรมให้ทำแบบไม่เบื่อ เรื่องกีฬาทางน้ำคือจัดเต็มทั้งพายเรือคายัค แล่นเรือใบ แทมโพลีน และอื่นๆ ให้เลือกเล่นอีกเยอะมาก ช่วงกลางคืนจะสวยเป็นพิเศษเพราะเห็นกลุ่มดาวได้ชัดมาก เป็นอีกสถานที่ที่ให้ความโรแมนติกและความประทับใจ

 


12. น้ำตกผาดอกเสี้ยว

 

         เชียงใหม่ก็มีน้ำตกนะ มาทั้งทีขอไปดูน้ำตกสูง 10 ชั้น เลยแล้วกัน น้ำตกผาดอกเสี้ยวอยู่ในเขตของอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ขึ้นชื่อเรื่องความอุดมสมบูรณ์ พอได้มาเห็นของจริงต้องร้องเลยว่าสวยมากจนแทบลืมหายใจ เตือนไว้ก่อนจับกล้องไว้ให้แน่น จุดที่ดึงดูดสายตาและเป็นสุดยอดไฮไลท์เลยคือสะพานไม้ไผ่ที่พาดยาวเป็นทางเดิน ตรงนี้จะมองเห็นน้ำตกที่กำลังไหลลงจากด้านบนที่สูงราวๆ 20 เมตร ใครที่อยากได้ภาพ ช็อตสวยๆ จะถ่ายภาพนิ่งหรือวิดีโอก็กดชัตเตอร์ซีนนี้ไว้รัวๆ ได้เลย ทริปนี้ภาพแน่น

 


13. ผาช่อ

 

 

        ผาช่อ สถานที่ท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติอยู่ในอุทยานแห่งชาติแม่วาง ด้วยรูปทรงที่แปลกตาจึงได้รับความสนใจจากเหล่านักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก ผาช่อมีลักษณะเป็นกำแพงดินและหิน มีความสูง 30 เมตร ความกว้างอยู่ที่ 100 เมตร ซึ่งเกิดจากปรากฏการณ์ธรรมชาติเป็นการสะสมของตะกอนที่ดันตัวขึ้น เมื่อโดนฝนและลมกัดเซาะจึงทำให้มีลักษณะคล้ายกำแพงเรียงตัวเป็นชั้นๆ มีลายริ้วคล้ายผ้า สามารถเที่ยวได้ทั้งวัน แต่ละช่วงเวลาจะเห็นผาช่อในบริบทที่แตกต่าง หากไปช่วงสายผาจะกลายเป็นสีส้มเพราะได้รับแสงอาทิตย์อย่างเต็มที่ แต่ถ้าเป็นช่วงบ่ายเป็นต้นไปแสงจะเริ่มเคลื่อนมาทิศตะวันตกทำให้ย้อนแสงและมองเห็นผาในโทนสีเข้มนั่นเอง

 

14. อุทยานแห่งชาติออบหลวง

 

 

         หน้าร้อนนี้ใครยังไม่มีแพลนไปเดินป่า มาชมนกชมไม้กันได้ที่อุทยานแห่งชาติออบหลวง เข้าสู่อ้อมกอดแห่งธรรมชาติ ผ่อนคลายกับวิวแม่น้ำและภูเขา พร้อมศึกษาเส้นทางธรรมชาติแบบจุใจ มีจุดให้เดินชม 13 จุด ด้วยกันซึ่ง เดินกันยาวๆ ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง เป็นระยะทาง 1.2 กิโลเมตร ไฮไลท์คือช่องแคบผาหินสูงระหว่างลำน้ำแม่แจ่มที่มีช่องแคบยาวไป 300 เมตร และมีส่วนที่แคบที่สุดเพียง 2 เมตร เท่านั้น ด้านบนมีสะพานด้วยหากใครอยากเห็นภาพรวมในมุมสูงแบบ 360 องศา เป็นอีกหนึ่งอุทยานที่สวยน่าเดินมากๆ

15. ล่องแพแม่วาง

 

 

          พักงานแล้วไปล่องแพแม่วางกันดีกว่า สดชื่น เย็นฉ่ำ อากาศร้อนขนาดไหนก็ทำอะไรไม่ได้ ชวนเพื่อนแล้วกอดคอกันไป 3-4 คน ได้แพไม้ไผ่มาหนึ่งลำ ล่องไปตามน้ำแม่น้ำประมาณ 4 กิโลเมตร ก็เป็นการเรียกเหงื่อเหนื่อยหอบกันแล้ว ระหว่างทางได้เจอช้างและควานช้างกำลังเล่นน้ำไปด้วย มีความสะดวกสบายมากเพราะข้างทางริมน้ำมีร้านค้าประปราย หากหิวก็จอดแพแล้วนั่งพักดื่มน้ำเติมพลังก่อนลุยกันต่อ เป็นการล่องแพที่ใช้พลังงานมากแต่ก็สนุกไปพร้อมๆ กัน

16. น้ำตกบัวตอง

 

 

          อีกหนึ่งที่เที่ยวสุดฮอตของเชียงใหม่ ด้วยความสวยมีเสน่ห์ไม่เหมือนที่ไหน น้ำที่มีส่วนผสมของแร่แคลเซียมคาร์บอเนตทำให้หินบริเวณน้ำตกถูกเคลือบด้วยหินปูน จึงมองเห็นเป็นสีขาวนวล ข้อดีคือทำให้ไม่ลื่นเดินได้อย่างปลอดภัย น้ำตกบัวตองมี 4 ชั้นด้วยกัน ในส่วนที่มีความชันไม่มากนักท่องเที่ยวสามารถเดินเท้าขึ้นน้ำตกได้โดยต้องคอยดึงเชือกทรงตัวเพื่อความปลอดภัย แต่ชั้นที่เริ่มสูงและชันต้องเดินขึ้นบันไดตามเนินไปเท่านั้น ส่วนเรื่องความสะอาดต้องยอมให้เลย น้ำใสและเย็นสบายแม้ไม่ได้ลงเล่นน้ำแค่ได้เอาเท้าจุ่มน้ำนั่งชมน้ำตกก็ถือว่าคุ้มแล้ว

17. บ้านม้ง ดอยปุย

 

 

          หลบหลีกเมืองไปเยี่ยมชมวิถีชีวิตบนดอยที่บ้านม้งกันเถอะ ขึ้นชื่อว่าอยู่บนดอยก็ต้องอากาศเย็นตลอดทั้งปี บ้านม้ง ดอยปุย จึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ว่าจะไปช่วงเวลาไหนก็มีแต่ความทรงจำดีๆ ทางเดินที่คดเคี้ยวมีเนินสูงต่ำทำให้สนุกกับการเดินเที่ยวขึ้นไปอีก พอขึ้นมาถึงด้านบนก็จะเห็นว่ามีเหล่าร้านค้าเปิดขายของเต็มไปหมด ชาวบ้านม้งจะใส่ชุดประจำถิ่นใช้ชีวิตประจำวัน มองดูแล้วมีความเป็นเอกลักษณ์ ส่วนของที่ขายก็มีหลากหลายทั้งเสื้อผ้า เครื่องประดับ และของใช้ ส่วนใหญ่จะเป็นผลิตภัณฑ์ที่ชาวบ้านทำเอง ทุกชิ้นมีกิมมิคเป็นเอกลักษณ์ แบบนี้จะไม่อุดหนุนสินค้าของชุมชนได้ยังไงกัน ต้องเหมาให้หมดเลย

18. ผาน้ำลอด

 

        คนรักธรรมชาติอยากเที่ยวต้องได้เที่ยว คราวนี้พาไปดูสายธารน้ำไหลลอดใต้หินยักษ์กันที่ผาน้ำลอด ตรงตัวตามชื่อ เป็นสิ่งที่ธรรมชาติให้มา ความงามที่ต้องไปเห็นของจริงสักครั้ง ผาน้ำลอดนั้นอยู่ใกล้กับบ้านแม่กำปอง ตั้งอยู่ท่ามกลางป่าอุดมสมบูรณ์สีเขียวทั่วทั้งบริเวณ อากาศดีเย็นสบาย เหมาะมากหากใครที่กำลังมองหาที่นั่งเล่นชิลๆ ฟังเสียงน้ำไหลได้ใช้เวลาใกล้ชิดกับธรรมชาติอย่างเต็มที่ มีทางเดินเป็นสะพานไม้ทำให้ดูเป็นระเบียบเดินปลอดภัยไม่ต้องกังวลว่าจะลื่นล้ม ใกล้ๆ กันมีร้านเบเกอรี่และเครื่องดื่ม จิบน้ำไปชมวิวไป วันหยุดนี้ช่างเพอร์เฟค

 


 

19. เดอะ ไจแอนท์ เชียงใหม่

 

       นั่งจิบกาแฟหอมๆ ได้รูปสวย และใกล้ชิดธรรมชาติต้องมาที่นี่เลย เดอะ ไจแอนท์ เชียงใหม่ ร้านกาแฟบนต้นไม้ใหญ่ มองเห็นวิวทิวเขาและป่าเขียวขจีได้จนสุดสายตา ไม่ว่าจะถ่ายรูปจากมุมไหนก็ออกมาสวยดูดี แต่มุมที่แนะนำเลยคือตรงสะพานแขวนหน้าทางเข้าที่ใครมาก็ต้องแวะโพสสักท่าสองท่าก่อนเข้าร้าน นอกจากร้านกาแฟแล้วที่นี่ก็ยังเป็นร้านอาหารด้วยซึ่งแบ่งเป็นโซนๆ ไป หรือใครกำลังมองหาที่พักก็มีเช่นเดียวกัน เรียกได้ว่าครอบคลุมหลายฟังก์ชั่น ครบจบในที่เดียว

20. เมืองคอง

 

 

         สำรวจเมืองลับที่หลบซ่อนตัวอยู่หลังดอยเชียงดาว ที่นนี่คือเมืองคองนั่นเอง ตั้งอยู่ท่ามกลางขุนเขาและป่าไม่นานาพันธุ์ อากาศดีไร้มลพิษหายใจได้เต็มปอด อำนวยความสะดวกกับผู้ที่ต้องการมาเยี่ยมชมสามารถเดินกลางทุ่งนาได้โดยไม่เปรอะเปื้อนเพราะมีสะพานไม้เป็นทางยาวให้คนได้ถ่ายรูปและเดินเล่นโดยเฉพาะ เป็นเมืองที่เงียบสงบเรียบง่าย เหมือนได้มาใช้ชีวิตปลีกวิเวก แถมได้เห็นวิถีชีวิตแบบชาวบ้านแบบเรียลไทม์ บ้างก็จูงวัวออกมากินหญ้า เด็กก็ออกมาวิ่งเล่นกันสนุกสนาน เป็นอีกสถานที่ที่อยากให้ทุกคนมาเปิดประสบการณ์ด้วยตัวเอง

 


         นี่เป็นเพียงสถานที่ท่องเที่ยวส่วนหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่เท่านั้น หวังว่าทั้ง 20 ที่เที่ยวเชียงใหม่นี้จะมีส่วนช่วยในการเป็นไอเดียสำหรับคนที่กำลังวางแพลนจะไปเที่ยวแต่ยังติดสินใจไม่ได้ว่าจะไปที่ไหนดี เห็นแบบนี้แล้วอาจตัดสินใจได้ง่ายขึ้นและล็อคพิกัดที่ถูกใจได้ตามที่ต้องการ เตรียมพร้อมเก็บกระเป๋าเดินทางไว้เลย เพราะซัมเมอร์นี้ได้เที่ยวจัดหนักแน่นอน สำหรับอีกหนึ่งตัวช่วยเพื่อให้สะดวกง่ายต่อการจองตั๋วเครื่องบิน โหลดแอปพลิเคชั่น Traveloka ไลฟ์สไตล์ซูเปอร์แอป  ติดเครื่องไว้เช็คราคาตั๋วเครื่องบินไปเชียงใหม่ได้ตลอด เจอราคาถูกใจก็จองตั๋วเครื่องบินได้เลย >> https://www.traveloka.com/th-th/flight/to/Chiang-Mai.CNX
ขอขอบคุณเครดิตภาพจาก SaiChill.com
          เชียงใหม่คือจุดหมายที่หลายคนคิดถึงเมื่อลมหนาวพัดมา เพราะเป็นพิกัดที่มีพร้อมทั้งการเดินทางที่สะดวกสบาย ที่พักหลากหลายรูปแบบและราคา แถมยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจสารพัดสไตล์ให้เลือกกันได้ชนิดที่ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมายเลยจ้า คราวนี้เราขอเอาใจคนชอบเที่ยวใกล้ๆ แบบไม่ต้องรีบตื่นเช้าเพื่อออกเดินทางหรือขับรถไกลๆ กันให้เสียเวลา ด้วยการรวบรวมพิกัดเที่ยวรอบๆ ตัวเมืองเชียงใหม่มาไว้ให้ปักหมุดกัน ที่สำคัญอย่าลืมจองตั๋วเครื่องบินเชียงใหม่กับ Traveloka ด้วยนะ จองง่ายแถมยังได้ราคาถูกใจ ได้เที่ยวเชียงใหม่กันแบบสบายๆ แน่นอน และอย่าลืมไปเช็คมาตรการสนามบินก่อนบินกันได้เลย > คลิก

 

จองตั๋วเครื่องบินไปเชียงใหม่ กับTraveloka > https://www.traveloka.com/th-th/flight/to/Chiang-Mai.CNX
จองรถเช่าเชียงใหม่ หรือเช่ารถเชียงใหม่ กับTraveloka > https://www.traveloka.com/th-th/car-rental/city/chiang-mai

 15 ที่เที่ยวในตัวเมืองเชียงใหม่

1. พระธาตุดอยสุเทพ

 

        แลนด์มาร์คยืนหนึ่งซึ่งเรามั่นใจว่าคนไปเชียงใหม่ทุกคนล้วนต้องแวะเช็คอินกันอย่างน้อยก็ซักครั้งละนะ พระธาตุดอยสุเทพนั้นสร้างขึ้นตั้งแต่สมัย พ.ศ.1926 โน่นเลยจ้า ด้านในองค์เจดีย์ของที่นี่ เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเอาไว้ นี่จึงเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของเมืองเชียงใหม่ที่นักท่องเที่ยวต้องแวะมา ได้ไหว้พระขอพรแล้วยังได้ดูวิวมุมสูงสวยๆ ของตัวเมืองในที่เดียวกันด้วยจ้า เดินทางง่ายใกล้ตัวเมืองเลยละ ไม่มาไม่ได้แล้ว

 


 

2. วัดอุโมงค์

 

         วัดสวยซึ่งมีสไตล์ไม่ซ้ำใคร ด้วยการมีทางเดินเป็นอุโมงค์เชื่อมต่อกันหลายทิศทางไปยังบริเวณองค์เจดีย์ซึ่งอยู่กลางลานกว้าง วัดนี้เป็นอีกวัดเก่าแก่ที่อยู่คู่กับเมืองเชียงใหม่มาแล้วประมาณกว่า 700 ปี ไฮไลท์ของที่นี่คือการที่เราจะได้เดินเข้าไปไหว้พระกันในอุโมงค์ยาว ซึ่งให้บรรยากาศที่สงบร่มเย็นเหมาะกับการมาทำบุญนั่งสมาธิกันสุดๆ เลยเชียวละ รอบบริเวณวัดยังมีอีกหลายพิกัดที่น่าสนใจให้เดินเที่ยวกันได้ด้วยนะ อยากได้ความสงบกลางเมืองเชียงใหม่แนะนำให้แวะมา

 


3. ประตูท่าแพ

 

          ซิกเนเจอร์ของเมืองเชียงใหม่ที่น่าแวะไปถ่ายรูปแบบสุดๆ เลยเชียวละ เพราะเป็นกำแพงเมืองขนาดใหญ่ซึ่งสร้างด้วยอิฐสีส้มสวยขลังตามกาลเวลา ประตูท่าแพยังเป็นประตูเมืองแห่งเดียวของเชียงใหม่ที่มีบานประตูเปิดปิดด้วยนะ ด้านในกำแพงมีลานกว้างซึ่งมักจะมีฝูงนกพิราบแวะเวียนมาเป็นพร็อพประกอบรูปถ่ายแบบเก๋ๆ ให้ด้วยจ้ะ เดินหาให้ดีที่นี่มีมุมเจ๋งๆ เหมาะกับการโพสต์ท่าฮิปๆ เพียบเลยน้า วันอาทิตย์ยังมีถนนคนเดินให้ไปช้อปกันด้วยละ พลาดบ่ได้เลยเน้อ

 


4. ถนนนิมมานเหมินทร์

 

          เป็นพิกัดซึ่งรวบรวมความฮิป เก๋ คูล ของเมืองเชียงใหม่เอาไว้แบบจุกๆ เลยเชียวละ ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร ร้านขายสินค้าตกแต่งบ้านซึ่งเต็มไปด้วยดีไซน์ คาเฟ่เก๋ๆ ที่ไปนั่งชิลล์หามุมถ่ายรูปกันได้สารพัดโลเกชั่น ถนนนิมมานเหมินทร์นั้นมีกันทั้งหมด 17 ซอยไปเลยจ้า อยากช้อปเสื้อผ้าหรือแอ็คเซสซอรี่ส์ทั้งหลายก็มีล่อตาล่อใจอยู่หลายร้านเชียวละ ถนนนี้จะคึกคักกันตั้งแต่ช่วงสายๆ ไปจนถึงดึกๆ เลยนะ ใครชอบเดินเล่นแล้วแวะหาของอร่อยกินไปเรื่อยๆ เผื่อเวลาไว้เต็มๆ วันเลยจ้ะ รับประกันว่าจุใจ

 


 

5. สวนสัตว์เชียงใหม่ / เชียงใหม่ ซู อควาเรียม

 

           เป็นพิกัดที่เดินทางง่ายเพราะอยู่ใกล้กับทางขึ้นไปดอยสุเทพ และเป็นสวนสัตว์ขนาดใหญ่ซึ่งมีหลายโซนให้เดินเล่นกัน ไฮไลท์สำคัญของที่นี่ก็คงต้องยกให้กับหมีแพนด้าซึ่งหาชมตัวเป็นๆ ได้เพียงที่เดียวในเมืองไทย หรือถ้าอยากเห็นโคอาล่าเค้าก็มีให้ดูกันด้วยน้า ตามมาด้วยสวนชมนกนครพิงค์พื้นที่กว่า 6 ไร่ ซึ่งเป็นสวนนกที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทยเลยละ อยากชมสัตว์น้ำเค้าก็มี เชียงใหม่ ซู อควาเรียม ที่มีอุโมงค์ใต้น้ำซึ่งกว้างและยาวที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีโซนใต้น้ำที่รวมเอาทั้งสัตว์น้ำจืดและน้ำเค็มมาไว้ให้ดูกันแบบจุกๆ อีก 6 โซนเลยนะ เก๋สุดก็ตรงที่เค้ามีกิจกรรมดำน้ำให้ทำกันด้วยจ้ะ อยากสคูบากลางเมืองเชียงใหม่ก็มาจัดได้ที่นี่เลย!

 


6. วัดพระสิงห์

 

          หนึ่งวัดสวยกลางเมืองเชียงใหม่ที่ควรไปชมด้วยตา วัดพระสิงห์นั้นเป็นที่ประดิษฐานองค์พระสิงห์หรือพระพุทธสิหิงค์ซึ่งเป็นพระคู่เมืองเชียงใหม่มาตั้งแต่โบราณ ความเชื่อตามคติล้านนานั้นว่ากันว่าคนที่เกิดปีมะโรงต้องมากราบองค์พระสิงห์ให้ได้ซักครั้งในชีวิตเลยนะ ในวัดพระสิงห์นั้นเต็มไปด้วยศิลปะความสวยสไตล์ล้านนาโบราณที่งดงามจับตา ว่ากันว่าวัดนี้มีหอธรรมที่งดงามที่สุดของภาคเหนือเลยจ้า แถมยังมีภาพจิตรกรรมฝาผนังซึ่งหาดูไม่ได้ง่ายๆ บางวันในวัดยังมีแผงขายของพื้นเมืองน่ารักๆ ให้ได้แวะจับจ่ายกันด้วยนะ เป็นอีกวัดที่แนะนำว่าอย่าพลาดเลย

 


7. ถนนคนเดินท่าแพ

 

        เป็นถนนคนเดินสุดอลังการที่เปิดให้เดินกันได้ในช่วงเย็นวันอาทิตย์ โดยเป็นแหล่งรวบรวมทั้งของกินและของใช้สไตล์ท้องถิ่น รวมไปถึงของฝากสารพัดรูปแบบและราคา บอกได้เลยว่านี่คือหนึ่งถนนคนเดินในเมืองไทยที่เดินได้แบบมันสุดๆ จ้า เพราะตลอดเส้นทางยังมีซอกเล็กซอยน้อยให้แวะกระจายรายได้กันอีกสารพัด จะเป็นเสื้อผ้า รองเท้า งานศิลปะ ของตกแต่งบ้าน หรือเครื่องประดับ ก็มีให้จับจ่ายกัน มาเชียงใหม่เมื่อไหร่วางแพลนมาโดนที่นี่กันให้ได้เลยนะ สายช้อปไม่มีคำว่าผิดหวังแน่นอน

 


8. วัดศรีสุพรรณ

 

       อีกหนึ่งวัดเก่าบนถนนวัวลาย ซึ่งอยู่คู่กับเมืองเชียงใหม่มาตั้งแต่ พ.ศ.2043 และเพราะความที่ถนนวัวลายนั้นเป็นที่ตั้งของศูนย์กลางชุมชนหัตถกรรมเครื่องเงินล้านนา จึงเป็นที่มาของการเริ่มสร้างพระอุโบสถเงินหลังแรกของโลกที่วัดนี้ในปี พ.ศ.2547 ซึ่งตัวพระอุโบสถเงินนั้นสร้างในรูปแบบศิลปะล้านนาด้วยฝีมือของช่างในท้องถิ่น โดยใช้เงินและดีบุกเป็นวัสดุหลัก  ทั้งด้านนอกและด้านในนั้นละเอียดยิบไปด้วยชิ้นงานสุดอลังการเลยเชียวละ ใกล้กันยังมีพระบรมธาตุ และพิพิธภัณฑ์ภูมิปัญญาสล่าสิบหมู่ให้เดินชมกันด้วยนะ เป็นอีกพิกัดกลางเมืองเชียงใหม่ที่น่าสนใจไม่น้อยเลย

 

 

9. แกรนด์ แคนยอน เชียงใหม่

 

       ออกจากใจกลางเมืองเชียงใหม่ไปประมาณ 20 กิโลเมตรเท่านั้น ก็จะได้เจอกับสถานที่พักผ่อนยอดฮิตอีกหนึ่งแห่งของสายกิจกรรมเค้าละ พื้นที่ราวๆ 30 ไร่ ซึ่งมีการขุดดินไปขายจนทำให้เกิดคันดินความสูงใกล้เคียงกับตึก 3 ชั้น! ให้อารมณ์คล้ายๆ แกรนด์ แคนยอน ของอเมริกา แต่ที่เด็ดกว่าคือลงไปเล่นน้ำได้! ใครเป็นสายกิจกรรมชอบความแอดเวนเจอร์ ที่นี่เค้ามีอุปกรณ์เครื่องเล่นให้ลองมันกันได้เพียบเลยจ้า หรือจะแค่มาเดินดูเดินถ่ายรูปแวะหาอะไรกินเพลินๆ ก็ได้เหมือนกันนะ เลือกตามอัธยาศัยเน้อ

 


 

10. เชียงใหม่ ไนท์ซาฟารี

 

          อีกหนึ่งพิกัดที่คนรักสัตว์ไม่ควรพลาด เพราะเป็นอีกบรรยากาศในการเที่ยวชมบรรดาสัตว์ป่าซึ่งต่างจากในสวนสัตว์ปกติทั่วไป โดยนอกจากจะมาเที่ยวชมในตอนกลางวันกันได้แล้วนะ ที่นี่เค้ายังเปิดให้บริการพานั่งรถพ่วงส่องสรรพสัตว์ในยามค่ำคืนอีกด้วยจ้า แถมนอกจากดูสัตว์แล้ว เค้ายังมีโชว์น้ำพุประกอบแสง สี เสียง และโชว์เด็ดๆ อีกหลายชุดให้ชมกันด้วยนะ เป็นอีกพิกัดที่เที่ยวได้เพลินเชียวละ ไม่เชื่อลองแวะมา

 


 

11. อุทยานหลวงราชพฤกษ์

 

        จากความเพลินของการเดินชมสัตว์ทั้งหลาย เปลี่ยนมาเป็นความเพลินของการเดินชมไม้ดอกไม้ใบกันบ้างดีกว่า จากพื้นที่ซึ่งเคยใช้จัดงานพืชสวนโลกมาเมื่อ พ.ศ.2549 กลายมาเป็นสวนสวยแบบถาวรให้เราได้แวะชมกัน ไฮไลท์ยืนหนึ่งที่โดดเด่นสะดุดตาก็ต้องยกให้กับหอคำหลวง ซึ่งเป็นอาคารสวยสไตล์ล้านนาตั้งตระหง่านอยู่ตรงกลางสวนสวยขนาดใหญ่ นอกจากนั้นยังมีสวนแจ่มๆ ที่แบ่งเป็นโซนตามประเทศ รวมถึงตามชนิดและที่มาของบรรดาพรรณไม้ เราว่าเป็นพิกัดที่สายเขียวแวะดูกันได้ทั้งวันอย่างแน่นอน

 

12. ขุนช่างเคี่ยน

 

          ไม่ต้องขับรถไปไกลๆ ก็มีดอกซากุระเมืองไทยให้ชมกันได้แล้วจ้า เพราะสถานีวิจัยและศูนย์ฝึกอบรมเกษตรที่สูงขุนช่างเคี่ยนแห่งนี้ เค้าอยู่ในเส้นทางเดียวกับพระธาตุดอยสุเทพนั่นละ นอกจากจะมีพืชพรรณผลไม้เมืองหนาวปลูกอยู่หลายชนิดแล้วนะ ช่วงอากาศเย็นๆ ปลายปีต้นปีแบบนี้ ที่นี่จะเต็มไปด้วยสีชมพูของดอกนางพญาเสือโคร่งซึ่งทยอยกันบานสะพรั่งให้ชมกันตั้งแต่ริมถนนไปจนถึงด้านใน เค้ามีเส้นทางเดินชมดอกไม้เอาไว้ให้เราได้ชิลล์กันด้วยนะ ดูดอกไม้เสร็จจะแวะจิบกาแฟสดรสอร่อยของที่นี่เป็นการปิดท้ายก็บอกได้ว่าเริ่ดจ้า ไม่ฟินก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว

 


 

13. ถนนคนเดินวัวลาย

 

          อีกหนึ่งถนนคนเดินน่าสนใจกลางเมืองเชียงใหม่ที่มีให้เดินเล่นเดินช้อปกันได้ในทุกคืนวันเสาร์ โดยมีเส้นทางระยะยาวประมาณ 1 กิโลเมตร ถึงจะมีขนาดย่อมกว่าถนนคนเดินท่าแพ แต่ก็รับรองว่าไม่ธรรมดา เพราะที่นี่อัดแน่นไปด้วยสารพัดงานฝีมือสไตล์ล้านนา รวมไปถึงของกินท้องถิ่นที่น่าแวะชิมมากมาย สองฝั่งถนนนั้นมีทั้งเสื้อผ้า ของใช้ ของฝาก ขนม หรือของว่าง ให้แวะกระจายรายได้กันไปตลอดทางเลยเชียวละ เป็นอีกพิกัดที่จัดว่าเพลินและไม่ควรพลาดอีกเช่นกัน

 


14. วัดเจดีย์หลวง

 

        พระอารามหลวงโบราณกลางเมืองเชียงใหม่ ซึ่งเป็นที่ตั้งของเจดีย์ที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัด มีพระวิหารหลวงทรงล้านนา ที่หน้าประตูทางเข้าพระวิหารมีบันไดนาคเลื้อยโบราณซึ่งได้ชื่อว่างดงามที่สุดของภาคเหนือเลยนะ นอกจากนั้นยังมีเสาอินทขิล หรือเสาหลักเมืองที่สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.1839 คราวที่พ่อขุนเม็งรายมหาราชสร้างเมืองเชียงใหม่โน่นเลยจ้า นับเป็นอีกหนึ่งวัดเก่าแก่ที่ยิ่งใหญ่และแนะนำว่าควรแวะไปเช็คอินให้ได้เลย

 


 

15. วัดพระธาตุดอยคำ

 

         วัดเก่าแก่อายุกว่า 1,300 ปี ที่สร้างขึ้นตั้งแต่ในสมัยหริภุญชัย ตั้งอยู่บนดอยคำซึ่งเป็นภูเขาสูงประมาณ 200 เมตรแห่งนี้ เป็นที่ประดิษฐานองค์เจดีย์พระธาตุดอยคำ ซึ่งเป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเอาไว้ด้านใน วัดนี้จึงเป็นอีกหนึ่งสถานที่ศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองเชียงใหม่ที่ผู้คนเคารพศรัทธา ถ้ามาแล้วอย่าพลาดการไปกราบสักการะหลวงพ่อทันใจ ซึ่งเชื่อกันว่าจะช่วยเนรมิตสิ่งที่เราขอให้สำเร็จสมหวังได้รวดเร็วทันใจสมชื่อกันด้วยนะ อยากได้อะไรก็ลองมาอธิษฐานกันได้เลยจ้า ขอให้ได้ขอให้โดนกันถ้วนหน้าเลยนะ แวะมาให้ไว

 


        นี่คือบางส่วนของพิกัดเที่ยวละแวกตัวเมืองเชียงใหม่ที่อยากชวนให้ปักหมุดแวะไปกัน ทุกแห่งนั้นเดินทางง่ายไม่ว่าจะขับรถไปหรือใช้บริการรถสาธารณะ เที่ยวได้ชิลล์ๆ ในบรรยากาศสบาย แบบไม่ต้องเสียเวลากับการเดินทางมากมายเลยนะ เอาเวลาไปเที่ยวเพิ่มได้อีกเยอะเลยละ ไม่ต้องเหนื่อยเพราะขับรถไกลๆ ด้วยนะ ช่วงนี้อากาศเชียงใหม่ดีสุดๆ เลยจ้า รีบจองตั๋วแล้วเก็บกระเป๋าไปให้ทันหน้าหนาวกันเด้อ

 

จองตั๋วเครื่องบินไปเชียงใหม่ กับTraveloka > https://www.traveloka.com/th-th/flight/to/Chiang-Mai.CNX
จองรถเช่าเชียงใหม่ หรือเช่ารถเชียงใหม่ กับTraveloka > https://www.traveloka.com/th-th/car-rental/city/chiang-mai

10 อันดับโรงแรมใกล้ชิดธรรมชาติ ทำเลสวย ในจังหวัดเชียงใหม่ !!

 

         เชียงใหม่เป็นเมืองล้านนาเก่าที่ห้อมล้อมไปด้วยบรรยากาศธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นยอดดอย ภูเขา น้ำตก ตลอดจนพืชพันธุ์ไม้สวยๆ นานาชนิดที่มีให้พบได้ทุกหนทุกแห่งเมื่อมาเยี่ยมเยือน และผู้คนก็ยังคงอนุรักษ์ซึ่งวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมเอาไว้ ทำให้เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์แห่งความงาม แถมสำเนียงการพูดก็ยังไพเราะอ่อนหวานตราตรึงความรู้สึกของผู้คนอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นฤดูไหนความงดงามในบรรยากาศของจังหวัดเชียงใหม่ก็เป็นเอกลักษณ์ที่น่าประทับใจเสมอ ทำให้ที่พักใกล้ชิดธรรมชาติได้รับการจับจองและใช้บริการอย่างครึกครื้นตลอดปี วันนี้เราก็จะมาแนะนำที่พักธรรมชาติเชียงใหม่ที่เมื่อคุณเข้าพักแล้วจะรู้สึกเหมือนอยู่ท่ามกลางแมกไม้ผืนป่า กลิ่นอายแห่งความรื่นรมย์จะห่มกอดให้คุณสดชื่นประทับใจ พร้อมด้วยการบริการระดับมืออาชีพที่ในแต่ละที่พักมีมอบให้คุณอย่างเต็มเปี่ยม จะมีที่ใดบ้างนั้น ตามไปดูกันเลย

 

“10 อันดับโรงแรมใกล้ชิดธรรมชาติในจังหวัดเชียงใหม่”
TOPTENHOTEL Application

1. Horizon Village Resort

 

 

          โรงแรมแห่งนี้ขึ้นชื่อเรื่องของความเงียบสงบและบรรยากาศของธรรมชาติที่สัมผัสได้อย่างใกล้ชิด ด้วยการตกแต่งสไตล์ล้านนาดั้งเดิม อีกทั้งยังมีสวนสัตว์ขนาดเล็กให้ผู้เข้าพักได้เที่ยวชมและให้อาหาร รอบๆ โรงแรมเป็นสวนสวยที่จัดเอาไว้เพื่อเพิ่มความสดชื่นรื่นรมย์ มีน้ำตกเล็กๆ เพิ่มกลิ่นอายของธรรมชาติได้อย่างน่าประทับใจ ที่สำคัญทางโรงแรมยังจัดให้มีกิจกรรมต่างๆ ให้ผู้เข้าพักได้รับความเพลินเพลิน เช่น พายเรือ นวดสปา ขี่บอลลูน ขี่ม้า หรือเช่าจักรยานท่องเที่ยว เป็นต้น พนักงานจะคอยดูแลเอาใจใส่และให้ความช่วยเหลือเป็นอย่างดี ทำให้ที่พักใกล้ธรรมชาติเชียงใหม่แห่งนี้เป็นสถานที่พักอันดับต้นๆ สำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสความงามของธรรมชาติอย่างแท้จริง

 

 

โรงแรม  Horizon Village Resort แห่งนี้ได้รับคะแนนรีวิว  8.2/10 คะแนนจาก Agoda.com
เลือกเข้าพักได้  1-4 ท่าน
ราคา เริ่มต้นห้องละ   1,530   บาท
จองโรงแรม ราคาพิเศษ

2. Proud Phu Fah Hip & Green Resort

 

 

        ห้องพักสไตล์ยุโรปที่ผสานเข้ากับธรรมชาติอย่างไม่มีที่ติ ทั้งภายในและนอกโรงแรมจัดได้อย่างสวยงาม ช่วยให้ผู้เข้าพักได้รับพลังบริสุทธิ์จากธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ เหมาะมากสำหรับผู้ที่เหนื่อยล้าจากสังคมเมืองที่วุ่นวาย หากเข้ามาพักผ่อนที่นี่แล้วคุณจะได้รับพลังงานดีๆ เติมเข้าไปในชีวิตอย่างเต็มเปี่ยม ทำให้ Proud Phu Fah Hip & Green Resort กลายเป็นที่พักธรรมชาติเชียงใหม่ที่ใครมาลองแล้วต้องกลับมาอีก เนื่องจากพนักงานบริการดี อาหารก็อร่อย ที่พักก็สะอาดและเงียบสงบ พรั่งพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกแบบครบครัน และที่สำคัญได้ชำระล้างจิตใจให้ผ่อนคลายไปกับธรรมชาติที่ช่วยบำบัดอารมณ์ให้ดีขึ้นไปเรื่อยๆ อีกด้วย

 

 

โรงแรม Proud Phu Fah Hip & Green Resort แห่งนี้ได้รับคะแนนรีวิว 8.8/10 คะแนนจาก Agoda.com
เลือกเข้าพักได้  1-4 ท่าน
ราคา เริ่มต้นหลังละ   1,779   บาท
จองโรงแรม ราคาพิเศษ

 


3.  At NaTa Chiangmai Chic Jungle

 

 

              ที่พักธรรมชาติเชียงใหม่แห่งนี้ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่เขียวขจีและรายล้อมไปด้วยดอกไม้สีสันสวยงามนานาพันธุ์ นอกโรงแรมยังมีสวนสวย และมีพื้นที่นั่งเล่นเพื่อให้ผู้เข้าพักได้ผ่อนคลายอารมณ์ไปกับธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ ระเบียงนั่งเล่นประดับด้วยผ้าม่านสีขาวกับหลังคาที่เปิดโล่ง ช่วยให้ได้บรรยากาศนั่งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ภายในห้องพัก ได้รับการตกแต่งอย่างหวานแหวว เหมาะสำหรับคู่รักหรือการมาพักผ่อนเป็นครอบครัว ที่หน้าต่างสามารถมองเห็นวิวรอบๆ ได้อย่างสวยงาม ที่สำคัญอากาศดีมากให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในบ้านที่รายล้อมไปด้วยต้นไม้อันร่มรื่น

 

โรงแรม At NaTa Chiangmai Chic Jungle  แห่งนี้ได้รับคะแนนรีวิว  7.4/10 คะแนนจาก Agoda.com
เลือกเข้าพักได้  1-4 ท่าน
ราคา เริ่มต้นห้องละ   960   บาท
จองโรงแรม ราคาพิเศษ

4. Mae Sa Valley Garden Resort

 

 

            รีสอร์ทแสนสวยที่รายล้อมไปด้วยธรรมชาติทั้งต้นไม้และดอกไม้นานาพันธุ์ อีกทั้งยังมีแม่น้ำไหลผ่านให้บรรยากาศโรแมนติกและผ่อนคลายอย่างที่สุด ภายในห้องพักเงียบสงบ ห่างไกลจากความวุ่นวาย มีเตียงนอนนุ่มๆ กับผ้าห่มอุ่นๆ ที่ทำให้การนอนหลับพักผ่อนเป็นเหมือนการหลับฝันอยู่บนวิมานฉิมพลี อาหารของ Mae Sa Valley Garden Resort ก็ล้วนเป็นอาหารที่ได้รับการปรุงอย่างดีจากพ่อครัวระดับ 5 ดาว ที่พักใกล้ธรรมชาติเชียงใหม่แห่งนี้เหมาะอย่างมากสำหรับผู้ที่ต้องการการพักผ่อนอย่างแท้จริง เพราะตื่นเช้ามาสามารถเดินชมวิวโดยรอบได้อย่างสดชื่นสบายตา การเดินทางก็สะดวก เพราะมีรถรับส่งถึงสนามบิน

 

 

โรงแรม Mae Sa Valley Garden Resort แห่งนี้ได้รับคะแนนรีวิว 7.8 /10 คะแนนจาก Agoda.com
เลือกเข้าพักได้  1-2 ท่าน
ราคา เริ่มต้นห้องละ   1,020   บาท
จองโรงแรม ราคาพิเศษ

5. Hmong Hilltribe Lodge

 

 

           Hmong Hilltribe Lodge เป็นที่พักใกล้ธรรมชาติเชียงใหม่สไตล์พื้นบ้านที่อ้างอิงธรรมชาติของเมืองเหนือ เป็นลักษณะของบ้านพักที่รายล้อมไปด้วยทุ่งนาและไม้ดอกไม้ประกับต่างๆ เปรียบเสมือนได้พักบังกะโลริมทุ่งให้บรรยากาศแห่งการพักผ่อน พร้อมตามติดวิถีชีวิตของชาวเมืองได้อย่างแท้จริง ภายในห้องพักถูกตกแต่งอย่างเก๋ไก๋ด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้ที่ประดับประดาด้วยผ้าปักตามแบบฉบับของชาวม้ง อีกทั้งห้องอาหารยังเป็นห้องที่เปิดโล่งหลังคามุงด้วยจาก ที่พักแห่งนี้ยังให้บริการอาหารแสนอร่อย และยังมีการแสดงของชาวม้งหลังอาหารค่ำอีกด้วย

 

 

โรงแรม Hmong Hilltribe Lodge แห่งนี้ได้รับคะแนนรีวิว  7.5/10 คะแนนจาก Agoda.com
เลือกเข้าพักได้  1-2  ท่าน
ราคา เริ่มต้นหลังละ   1,440   บาท
จองโรงแรม ราคาพิเศษ

6. Jirung Health Village

 

 

          ที่พักใกล้ชิดธรรมชาติภายใต้ชื่อว่า Jirung Health Village มาพร้อมการตกแต่งสไตล์ล้านนาดั้งเดิมที่เข้ากันดีกับธรรมชาติโดยรอบ แต่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันและทันสมัย ภายในห้องพักกว้างขวางและตกแต่งอย่างสวยงาม มีสระว่ายน้ำกลางแจ้ง ให้ผู้เข้าพักได้เพลิดเพลินไปกับการว่ายน้ำและชมธรรมชาติแบบใกล้ชิด พนักงานบริการแบบมืออาชีพและเอาใจใส่เป็นอย่างดี อาหารก็ปรุงจากผักที่ปลูกเองในท้องถิ่น สดและปลอดภัยมาก ที่สำคัญที่พักธรรมชาติเชียงใหม่แห่งนี้มีกิจกรรมที่น่าสนใจหลายอย่าง เช่น การเรียนทำอาหาร, งานหัตถกรรม, เล่นโยคะ, ทำสมาธิและยังมีการเรียนชกมวยอีกด้วย

 

 

โรงแรม Jirung Health Village แห่งนี้ได้รับคะแนนรีวิว  9.0/10 คะแนนจาก Agoda.com
เลือกเข้าพักได้  1-2 ท่าน
ราคา เริ่มต้นห้องละ   943  บาท
จองโรงแรม ราคาพิเศษ

7. Lanna Dusita Riverside Boutique Resort

 

 

            ที่พักธรรมชาติเชียงใหม่แห่งนี้ตั้งอยู่ริมแม่น้ำปิง ทำให้มองเห็นวิวแม่น้ำและวิวภูเขาได้อย่างชัดเจน ภายในที่พักถูกจัดตกแต่งอย่างสวยงามและน่าตื่นตาตื่นใจ บรรยากาศร่มรื่น เงียบสงบ หากมาเที่ยวในฤดูหนาวจะเห็นหมอกปกคลุมเหนือแม่น้ำในตอนเช้า เป็นวิวที่สวยงามเกินคำบรรยาย อาหารเช้าของ Lanna Dusita Riverside Boutique Resort ก็เป็นอาหารเช้าที่เรียบง่ายแต่อร่อยอย่าบอกใคร เพราะใช้วัตถุดิบหลักจากธรรมชาติที่สดมาก พนักงานก็คอยดูแลเอาใจใส่อย่างดี อีกทั้งยังมีระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง ช่วยให้คุณได้รับการพักผ่อนอย่างเต็มที่โดยไม่ต้องกังวลเรื่องใดๆ

 

 

โรงแรม Lanna Dusita Riverside Boutique Resort แห่งนี้ได้รับคะแนนรีวิว  9.0/10 คะแนนจาก Agoda.com
เลือกเข้าพักได้  1-4 ท่าน
ราคา เริ่มต้นห้องละ   881   บาท
จองโรงแรม ราคาพิเศษ

8. X2 Chiang Mai Riverside

 

 

          ที่พักใกล้ชิดธรรมชาติสุดหรูแห่งนี้ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำปิง บรรยากาศโดยรอบเงียบสงบและอากาศดีมาก แถมยังออกแบบตกแต่งอย่างมีรสนิยมที่ผสานสไตล์ล้านนาดั้งเดิมให้เข้ากับสมัยใหม่ได้อย่างลงตัว ภายในห้องพักเงียบสงบและอากาศดี ที่หน้าต่างสามารถมองเห็นวิวแม่น้ำปิง ภูเขาและเมืองรอบๆ ได้อย่างชัดเจน อีกทั้งยังมีต้นมะขามอายุยาวนานให้ได้ชื่นชมอีกด้วย ครอบครัวไหนที่มีเด็กเล็กๆ มา ที่พักแห่งนี้ก็มีเตียงนอนและอ่างอาบน้ำสำหรับเด็กทารกเสริมให้โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ทำให้ที่พักธรรมชาติเชียงใหม่แห่งนี้ได้รับความนิยมอย่างมากสำหรับครอบครัวที่พาเด็กเล็กๆ มาด้วย

 

 

โรงแรม  X2 Chiang Mai Riverside  แห่งนี้ได้รับคะแนนรีวิว 9.1/10 คะแนนจาก Agoda.com
เลือกเข้าพักได้  1-2 ท่าน
ราคา เริ่มต้นห้องละ  4,135  บาท
จองโรงแรม ราคาพิเศษ

9. Veranda High Resort MGallery

 

 

          ที่พักธรรมชาติเชียงใหม่สุดหรูที่มาพร้อมกับการตกแต่งอย่างเก๋ไก๋และมีเอกลักษณ์ เพราะผู้เข้าพักสามารถสัมผัสกับอารมณ์ที่แตกต่าง ระหว่างสไตล์ล้านนาดั้งเดิม และสไตล์ร่วมสมัย อีกทั้งทำเลที่ตั้งยังอยู่ติดกับภูเขาทำให้ผู้เข้าพักได้เห็นวิวธรรมชาติที่ติดตาตรึงใจของลำธารและไร่ชาที่เป็นระดับขั้นบันได อีกทั้งพนักงานก็มีอัธยาศัยดีและใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ทำให้ผู้เข้าพักได้รับความอบอุ่นและปลอดภัยเหมือนได้พักอยู่ในบ้านของตนเอง อาหารเช้าแสนอร่อยก็มีให้เลือกหลากหลาย การเดินทางก็สะดวก เพราะมีรถรับส่งถึงสนามบิน

 

 

โรงแรม Veranda High Resort MGallery แห่งนี้ได้รับคะแนนรีวิว 8.3/10 คะแนนจาก Agoda.com
เลือกเข้าพักได้  1-2 ท่าน
ราคา เริ่มต้นห้องละ   3,410   บาท
จองโรงแรม ราคาพิเศษ

10. Kao mai Lanna Resort

 

 

            เป็นที่พักที่มีต้นไม้รายล้อมอยู่โดยรอบ ทำให้ผู้เข้าพักได้ใกล้ชิดและสูดอากาศบริสุทธิ์ได้อย่างเต็มปอด ภายในห้องพักถูกตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้โบราณให้ความรู้สึกสงบและผ่อนคลาย ห้องอาหารของ Kaomai Lanna Resort ก็เน้นอาหารไทยและอาหารจีนที่ปรุงแบบสดใหม่จากผักที่ปลูกขึ้นเอง ทำให้ผู้เข้าพักได้ลิ้มลองอาหารเลิศรสที่สดใหม่ทุกวัน ทางด้านห้องพักก็ถูกจัดตกแต่งไว้อย่างสวยงาม ที่พักธรรมชาติเชียงใหม่แห่งนี้ยังมีกิจกรรมต่างๆ ให้ผู้เข้าพักได้สนุกสนาน เช่น กิจกรรมทำกระดาษและไม้แกะสลัก แอโรบิกในน้ำตอนเช้าหรือบริการนำเที่ยวด้วยจักยาน เป็นต้น

 

 

โรงแรม  Kaomai Lanna Resort แห่งนี้ได้รับคะแนนรีวิว  7.5 /10 คะแนนจาก Agoda.com
เลือกเข้าพักได้  1-4  ท่าน
ราคา เริ่มต้นห้องละ   1,147   บาท
จองโรงแรม ราคาพิเศษ

         ที่พักใกล้ชิดธรรมชาติในจังหวัดเชียงใหม่ 10 แห่งเหล่านี้ ล้วนขึ้นชื่อเรื่องความเงียบสงบและความเป็นส่วนตัว เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสวิถีธรรมชาติอย่างแท้จริง โดยเฉพาะใครที่เครียดๆ หรือเหน็ดเหนื่อยจากการทำงานมาตลอดหลายวัน ต้องการที่พักที่ให้การเยียวยาและบำบัดร่างกายจิตใจให้ผ่อนคลาย พร้อมสู้กับวันต่อๆ ไปได้อย่างเต็มพลังอีกครั้ง ที่พักใกล้ชิดธรรมชาติเหล่านี้ไม่ทำให้คุณผิดหวังแน่นอน

10 อันดับโรงแรมใกล้ชิดธรรมชาติในจังหวัดเชียงใหม่

Booking.com