เชียงใหม่ เมืองฮิตแห่งภาคเหนือ ไม่ว่าจะชาวไทยเองหรือต่างชาติก็อยากจะมาเที่ยวเมืองล้านนาแห่งความทันสมัยนี้ เชียงใหม่มีสถานที่ท่องเที่ยวเยอะมาก มีพื้นที่ภูเขาถึงร้อยละ 80 ของจังหวัด จึงมีสภาพอากาศเย็นสบาย  นอกจากนั้นแล้วยังมีสไตล์และอารยธรรมเป็นของตัวเอง เรื่องอาหารก็อร่อยมีเสน่ห์ชวนลิ้มลอง องค์ประกอบทั้งหมดนี้จึงเป็นสิ่งที่ดึงดูดความสนใจให้คนอยากมาทำความรู้จักและใช้เวลาในการพักผ่อนหย่อนใจที่เชียงใหม่ พร้อมแล้วไปดูกันดีกว่าว่าที่เที่ยวเชียงใหม่เหมาะกับทริปหน้านี้จะมีที่ไหนบ้างให้คุณเลือก
           การเดินทางก็สะดวกสบายมีสายการบินให้บริการหลากหลาย เที่ยวบินมีทุกวัน กรุงเทพ-เชียงใหม่ ระยะทาง 584 กิโลเมตร ประมาณ 1.15 ชั่วโมง ใครจะไปเที่ยวเชียงใหม่ก็สามารถเช็คราคาและ จองตั๋วเครื่องบินไปเชียงใหม่ กับ Traveloka Travel & Lifestyle Super App ได้นะ >> https://www.traveloka.com/th-th/flight/to/Chiang-Mai.CNX เพราะเค้ามีลดราคาตั๋วเครื่องบินอยู่บ่อยๆ ทั้งจองง่าย สะดวก รวดเร็ว มีช่องทางการจ่ายเงินให้เลือกเยอะมาก และมีทั้งที่พัก ตั๋วเครื่องบิน และรถเช่าให้พร้อมเลย และก่อนไปเที่ยวอย่าลืมเช็คมาตรการจังหวัดกันด้วย ที่นี่
จองรถรับส่งสนามบินเชียงใหม่ กับ Traveloka ไลฟ์สไตล์ซูเปอร์แอป > https://www.traveloka.com/th-th/airport-transfer
บริการรถเช่า หรือเช่ารถเชียงใหม่ กับ Traveloka ไลฟ์สไตล์ซูเปอร์แอป > https://www.traveloka.com/th-th/car-rental

แจกแพลนเที่ยวเชียงใหม่ 20 ที่เที่ยวเชียงใหม่ เหมาะกับไปทริปหน้า

 


1. บ้านแม่กำปอง

 

 

        บ้านแม่กำปองเป็นสถานที่ท่องเที่ยวฮอตฮิตมาสักพักแล้ว แม้กระทั่งตอนนี้ก็ยังถูกจดไว้ในลิสต์ที่เที่ยวเชียงใหม่ของใครหลายคน ด้วยบรรยากาศที่เรียบง่ายให้ฟีลญี่ปุ่นเบาๆ ที่นี่จึงได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวมากมาย บวกกับมีอากาศดี เย็นสบายจะมาช่วงไหนของปีก็ได้สัมผัสความเย็นนั้น เรื่องของกินก็ไม่แพ้ใคร เพราะบ้านแม่กำปองดังเรื่องสตีทฟู้ด เดินไปกินไป หยุดร้านนั้นทีร้านนี้ที ไม่ว่าจะเดินผ่านร้านไหนก็อยากแวะชิมอาหารไปทุกร้าน

2. สวนสนบ่อแก้ว

 

 

      เที่ยวชิล ชมธรรมชาติ สูดรับอากาศดีๆ ต้องมาที่สวนสนบ่อแก้ว สัมผัสสวนสนบนพื้นที่กว่า 2,072 ไร่ ยืนเรียงต้นสูงเป็นแนวขนาบสองข้างถนน เดินชมได้เพลินๆ ยิ่งตอนแสงแดดส่องผ่านใบสนลงมาจะได้ถ่ายภาพออกมาละมุนตาสวยทวีคูณ เป็นอีกสถานที่ที่กำลังได้รับความสนใจ ด้วยอุณภูมิที่เย็นฉ่ำตลอดปี ผู้คนจึงทยอยกันมาเที่ยวเรื่อยๆ ไม่แออัด ใครไม่ชอบความวุ่นวายเดินชิลมาก ถึงจะเป็นพื้นที่ธรรมชาติแต่รอบๆ ก็ยังมีร้านอาหารและคาเฟ่ให้บริการประปราย หากเดินเล่นจกหมดแรงก็นั่งพักเติมพลังกันได้

 


3. ประตูท่าแพ

 

 

       ไปถ่ายรูปแนวๆ กับนกพิราบที่ประตูท่าแพกัน กำแพงอิฐส้มมองเห็นเด่นแต่ไกล ด้วยสีที่สดใสนี้เลยกลายเป็นจุดเรียกนักท่องเที่ยวได้ดีเยี่ยมจนอดใจโพสท่าสวยๆ ไม่ได้ พอได้รูปจนพอใจก็ไปเดินเล่นต่อที่ถนนคนเดินท่าแพ ตลาดยาวออกไปทางถนนราชดำเนินจนถึงวัดพระสิงห์ รวมๆ ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร แต่จะมีแค่วันอาทิตย์เท่านั้นนะ เปิดตั้งแต่หกโมงเย็นไปถึงสี่ทุ่มเลย เพราะงั้นไม่ต้องกลัวแดดร้อน ด้านในก็จะเต็มไปด้วยร้านค้า มีสินค้าพื้นเมืองอย่างเสื้อผ้า กระเป๋า งานฝีมือต่างๆ อาหาร เครื่องดื่ม เรียกได้ว่าได้ทั้งของฝากและอิ่มท้องในคราวเดียว

4. สวนกุหลาบห้วยผักไผ่

 

 

       ไม่ต้องรอถึงฤดูหนาวก็ชมสวนดอกไม้ได้ สวนกุหลาบห้วยผักไผ่ อยู่ที่ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงทุ่งเริง สถานที่ท่องเที่ยวแนวธรรมชาติ รวบรวมหลากหลายสายพันธุ์กุหลาบถึง 180 สายพันธุ์ บานสะพรั่งส่งกลิ่นหอมไปทั้งอาณาบริเวณ เดินไปทางไหนก็ถูกโอบล้อมด้วยกุหลาบหลากสี ใกล้ชิดกว่านี้ไม่มีอีกแล้วเพราะทุกคนจะได้นั่งทานอาหารท่ามกลางสวนกุหลาบ เป็นการเปิดประสบการณ์ไปอีกแบบ เมนูส่วนใหญ่จะเป็นอาหารเพื่อสุขภาพอย่างน้ำพริก สลัด และเครื่องดื่มสมุนไพร หากติดใจก็มีผลิตภัณฑ์โครงการหลวงให้ซื้อติดไม้ติดมือกลับบ้านได้ด้วย นับว่าเป็นอีกสถานที่ที่แนะนำอยากให้มา

5. โป่งแยง ซิปไลน์ แอนด์ จังเกิ้ล โคสเตอร์

 

 

      หน้าร้อนนี้ชวนชาวแก๊งไปเที่ยวแบบลุยๆ ผจญภัยสุดตื่นเต้นที่ โป่งแยง ซิปไลน์ แอนด์ จังเกิ้ล โคสเตอร์ กันดีกว่า อุปกรณ์เครื่องเล่นเพียบ ถ้าชอบความท้าทายด้านความเร็วต้องเจอกับ Jungle Coaster วิ่งด้วยความเร็ว 40 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่ถ้าชอบเล่นของสูงต้องไปปั่นจักรยาน Jungle Bike หรือโหน Giant Swing ที่สูง 10 เมตร ก็เร้าใจดี และยังมีเครื่องเล่นอื่นๆ อย่าง Zipline 36 สถานี, Quick Jump, Slider สนุกไม่มีเบื่อ อีกสิ่งที่ห้ามพลาดเลยคือการนั่ง Jungle De Cafe คาเฟ่ริมน้ำตก บรรยากาศดี อาหารอร่อย กิจกรรมแน่นขนาดนี้ต้องมาแล้ว

 


6. สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์

 

 

         หนีเมืองแล้วไปสูดอากาศบริสุทธิ์ให้ชุ่มฉ่ำหัวใจที่ สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ เป็นแหล่งท่องเที่ยวพักผ่อนอยู่ได้ทั้งวัน มีที่ให้เดินมากมาย มีโรงเรือนกระจกขนาดใหญ่แบ่งตามลักษณะของพันธุ์พืช ส่วนไฮไลท์ที่มาถึงแล้วห้ามพลาดเลยคือ Canopy walkway ทางเดินลอยฟ้าที่ยาวที่สุดในประเทศไทย สูงจากพื้นถึง 20 เมตร และยาว 400 เมตร เดินชมเหล่าต้นไม้ไปถ่ายรูปไปด้วย ลมพัดเย็นสบายแถมร่มรื่นจนลืมไปเลยว่าใช้เวลาเดินไปนานเป็นชั่วโมงแล้ว

 


7. พิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัยใหม่เอี่ยม

 

 

         สายอาร์ต ชอบเสพงานศิลป์ มาเที่ยวเชียงใหม่คราวนี้ต้องไปพิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัยใหม่เอี่ยม พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เป็นการโชว์คอลเลคชั่นศิลปะส่วนตัวของผู้ก่อตั้งคือคุณฌอง มิเชล เบอร์เดอร์เลย์, คุณพัฒศรี บุนนาค และ คุณเอริค บุนนาค บูทซ์ ได้เก็บรวมรวมไว้มากว่า 30 ปี มีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้ทุกคนที่รักในงานศิลปะ เมื่อได้อินและใช้เวลากับความเงียบสงบตอนชมผลงานภายในจนพอใจแล้ว จะไม่พูดถึงรูปลักษณ์อาคารก็คงไม่ได้ เพราะดูโดดเด่นสมเป็นพิพิธภัณฑ์แห่งศิลปะจริงๆ การออกแบบที่เหมือนหุ้มอาคารโดยใช้กระจกนั้นก็เป็นอาร์ตอีกอย่างหนึ่ง จะเห็นได้ว่ากระจกของตัวอาคารสะท้อนเห็นต้นไม้เต็มไปหมด ทำให้ดูกลมกลืนกับบริบทแต่ก็น่าสนใจในเวลาเดียวกัน แปลกตาแต่ก็สวยดี

 

 


8. ฮิโนกิแลนด์

 

 

         เที่ยวเชียงใหม่แต่ได้ฟีลญี่ปุ่น ฮิโนกิแลนด์ อาณาจักรญี่ปุ่นโบราณแห่งเดียวในประเทศไทย บนเนื้อที่ 83 ไร่ วิวดีล้อมรอบด้วยภูเขาและธรรมชาติสิ่งที่สร้างความตื่นเต้นให้นักท่องเที่ยวเลยคือปราสาทไม้ฮิโนกิที่ทำจากไม้สนชนิดมีกลิ่นหอมซึ่งหายากและไม่เหมือนใคร อลังการสูงถึง 4 ชั้น เหมือนได้เทเลพอร์ตไปอยู่ที่ญี่ปุ่นจริงๆ เลย นอกจากอาคารสวยๆ แล้วที่นี่ยังสามารถเช่าชุดยูกาตะมาถ่ายรูปเล่นได้แบบไม่จำกัดชั่วโมง บอกเลยว่าสุดคุ้ม อย่าลืมแวะไปถ่ายรูปกับอุโมงค์เสาโทริอิด้วยนะ ต้องถ่ายรูปทุกจุดแล้วโชว์ว่ามาถึงแล้วนะฮิโนกิแลนด์

 


9. สวนสัตว์เชียงใหม่

 

 

         หนีร้อนไปชมสัตว์ป่า ไปดูว่าโคอาล่าน่ารักขนาดไหน ใครที่รู้สึกว่านานแล้วนะที่ไม่ได้พบเจอสัตว์อย่างอื่นที่ไม่ใช่มนุษย์เลย งั้นลองเปลี่ยนบรรยากาศพบเจอกับสัตว์สปีชีส์อื่นกันดีกว่า สวนสัตว์เชียงใหม่ก็ดูเข้าท่ามีสัตว์ให้ดูหลายชนิดกว่า 7,000 ตัว เลยทีเดียว ที่สำคัญมีสัตว์เมืองหนาวด้วย ที่นี่แบ่งโซนออกชัดเจนเดินไม่มีหลง ถ้าสัตว์น้ำจะอยู่ Chiang Mai Zoo Aquarium ส่วน Chiangmai Zoo Snow Dome จะเป็นที่รวบรวมประเภทสัตว์ที่ต้องอยู่ที่อุณหภูมิต่ำ ถามว่าต้องต่ำขนาดไหนก็ -7 องศา เท่านั้นเอง และโซนสุดท้ายคือพื้นที่สวนสัตว์เปิด ซึ่งมีสัตว์ที่ปล่อยอยู่ตามธรรมชาติถึง 200 ตัว เรียกได้ว่าเยอะหนำใจเดินดูได้ทั้งวัน

 


10. อ่างเก็บน้ำห้วยตึงเฒ่า

 

 

          อ่างเก็บน้ำห้วยตึงเฒ่าขึ้นชื่อว่าเป็นทะเลเชียงใหม่วิวสวย ด้วยความที่มีทรายรอบๆ อ่างเก็บน้ำจึงทำใด้ดูคล้ายชายหาด อีกทั้งยังมีแบล็คกราวของดอยสุเทพ ทำให้นักท่องเที่ยวรู้จักที่แห่งนี้และอยากมาเห็นทะเลเชียงใหม่กับตาตัวเอง ไหนๆ มาถึงทั้งทีขอเล่นน้ำสักหน่อย ปลอดภัยหายห่วงเพราะมีบริการห่วงยางให้ด้วย หรือใครจะทำอย่างอื่นที่นี่ก็มีพายเรือ ตกปลา ปั่นจักรยาน กิจกรรมแน่นเอียด หากไม่อยากให้ตัวเปียกก็มีอีกโซนให้ไปเดินเล่นถ่ายรูปกับคิงคองยักษ์ที่ทำจากฟาง ตัวใหญ่สุดสูง 8 เมตร เลยทีเดียว จบด้วยการเดินรับลมชมวิวทุ่งนาที่สะพานไม่ไผ่ก็บรรยากาศดีไม่แพ้กัน

11. เขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล

 

          สายชอบเที่ยวแบบเงียบสงบ ไร้ความวุ่นวาย ต้องมาเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล เขื่อนแห่งนี้มีกระแสเป็นที่นิยมสำหรับนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมากเพราะสามารถเที่ยวได้และมีที่พักด้วย อีกทั้งมีบรรยากาศดี วิวสวย มองเห็นภูเขาเขียวขจีได้เต็มตา ไม่แปลกเลยที่ใครๆ ก็อยากมา นอกจากจะได้มาพักผ่อนชิลแล้วก็ยังมีกิจกรรมให้ทำแบบไม่เบื่อ เรื่องกีฬาทางน้ำคือจัดเต็มทั้งพายเรือคายัค แล่นเรือใบ แทมโพลีน และอื่นๆ ให้เลือกเล่นอีกเยอะมาก ช่วงกลางคืนจะสวยเป็นพิเศษเพราะเห็นกลุ่มดาวได้ชัดมาก เป็นอีกสถานที่ที่ให้ความโรแมนติกและความประทับใจ

 


12. น้ำตกผาดอกเสี้ยว

 

         เชียงใหม่ก็มีน้ำตกนะ มาทั้งทีขอไปดูน้ำตกสูง 10 ชั้น เลยแล้วกัน น้ำตกผาดอกเสี้ยวอยู่ในเขตของอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ขึ้นชื่อเรื่องความอุดมสมบูรณ์ พอได้มาเห็นของจริงต้องร้องเลยว่าสวยมากจนแทบลืมหายใจ เตือนไว้ก่อนจับกล้องไว้ให้แน่น จุดที่ดึงดูดสายตาและเป็นสุดยอดไฮไลท์เลยคือสะพานไม้ไผ่ที่พาดยาวเป็นทางเดิน ตรงนี้จะมองเห็นน้ำตกที่กำลังไหลลงจากด้านบนที่สูงราวๆ 20 เมตร ใครที่อยากได้ภาพ ช็อตสวยๆ จะถ่ายภาพนิ่งหรือวิดีโอก็กดชัตเตอร์ซีนนี้ไว้รัวๆ ได้เลย ทริปนี้ภาพแน่น

 


13. ผาช่อ

 

 

        ผาช่อ สถานที่ท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติอยู่ในอุทยานแห่งชาติแม่วาง ด้วยรูปทรงที่แปลกตาจึงได้รับความสนใจจากเหล่านักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก ผาช่อมีลักษณะเป็นกำแพงดินและหิน มีความสูง 30 เมตร ความกว้างอยู่ที่ 100 เมตร ซึ่งเกิดจากปรากฏการณ์ธรรมชาติเป็นการสะสมของตะกอนที่ดันตัวขึ้น เมื่อโดนฝนและลมกัดเซาะจึงทำให้มีลักษณะคล้ายกำแพงเรียงตัวเป็นชั้นๆ มีลายริ้วคล้ายผ้า สามารถเที่ยวได้ทั้งวัน แต่ละช่วงเวลาจะเห็นผาช่อในบริบทที่แตกต่าง หากไปช่วงสายผาจะกลายเป็นสีส้มเพราะได้รับแสงอาทิตย์อย่างเต็มที่ แต่ถ้าเป็นช่วงบ่ายเป็นต้นไปแสงจะเริ่มเคลื่อนมาทิศตะวันตกทำให้ย้อนแสงและมองเห็นผาในโทนสีเข้มนั่นเอง

 

14. อุทยานแห่งชาติออบหลวง