อากาศดีๆ แบบนี้ หลายคนคงมีแพลนจะออกเที่ยวกัน แต่ถ้ายังไม่มั่นใจกับเมืองใหญ่ ก็ลองมองเมืองรองอย่างพิษณุโลกไว้เป็นช้อยส์นะ เพราะนี่คือเมืองที่จะเที่ยวได้แบบ new normal เลยละ ด้วยความที่พิกัดท่องเที่ยวเกือบทั้งหมดเป็นสถานที่ธรรมชาติเปิดโล่งอากาศดี แถมยังไม่ได้มีผู้คนแออัดเหมือนเมืองใหญ่ ที่เริ่ดคือจองตั๋วเครื่องบินราคาดีจาก Traveloka ได้ในคลิกเดียวด้วยนะ เพราะทราเวลโลก้าเป็น Traveloka Travel & Lifestyle Super App ที่ไม่ใช่แค่มีตั๋วเครื่องบินให้จองอย่างเดียว ยังรวมไปถึงที่พัก จองรถเช่า และอื่นๆ อีกมากมาย
และถ้าหากใครอยากไปเที่ยวพิษณุโลก แต่ยังไม่แน่ใจว่าต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง ไปเช็คมาตรการจังหวัดได้เลย > https://www.traveloka.com/th-th/flight/safe-travel ยิ่งถ้าฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มหรือมีผลตรวจว่าปลอดโควิดใน 72 ชั่วโมงไปแสดงก็ยังไม่ต้องกักตัวด้วยจ้า ปิดท้ายด้วยการสแกนแล้วกรอกข้อมูลใน QR CODE SAVE PHITSANULOK นะ เท่านี้ก็จะได้เที่ยวกันแบบชิลล์ๆ แล้วเด้อ
จองตั๋วเครื่องบินไปพิษณุโลกกับ Traveloka ได้ที่นี่ https://www.traveloka.com/th-th/flight/to/Phitsanulok.PHS
จองรถเช่า หรือเช่ารถ กับ Traveloka > https://www.traveloka.com/th-th/car-rental/
” พาขับรถเที่ยวพิษณุโลก เมืองรองลองแล้วจะติดใจ “
แพลนขับรถเที่ยวพิษณุโลก
ออกสตาร์ทกันด้วยการขับรถมา ล่องแพแก่งไฮ เพื่อใช้เวลาชิลล์ๆ ยืดเส้นยืดสายสูดอากาศดีๆ พร้อมกินอาหารรสเด็ดกันกลางอ่างเก็บน้ำห้วยซำรู้หรือแก่งไฮ ซึ่งเปิดบริการให้ล่องแพกันท่ามกลางบรรยากาศสบายๆ ที่รายล้อมไปด้วยธรรมชาติ โดยคิดค่าบริการแบบเหมาทั้งวันไปเลยจ้า ใครมีเวลาอยู่ยาวๆ ก็สั่งข้าวปลาอาหารมากินพร้อมโดดน้ำเล่นกันแบบเพลินๆ ได้เลยนะ new normal มากจ้า เพราะว่าไม่ต้องใกล้ชิดเบียดเสียดกับใคร เป็นพิกัดที่น่าสนใจและอยากให้แวะมา
เพลินกันพอหอมปากหอมคอ ก็ขับรถมาเที่ยวต่อยัง น้ำตกชาติตระการ น้ำตก 7 ชั้นซึ่งมีความสวยแตกต่างกันไปแบบไม่ซ้ำ บางชั้นเป็นน้ำตกเตี้ยๆ ที่มีความสูงแค่ชั้นเดียว ในขณะที่บางชั้นเป็นน้ำตกซึ่งลดหลั่นกันลงมาหลายสเต็ปความสูงน่าตื่นตาตื่นใจ ใครอยากเล่นน้ำแนะนำให้ลองเช็คกับเจ้าหน้าที่ก่อนนะว่าบริเวณไหนที่ลงเล่นได้ เกือบทุกชั้นมีที่ให้นั่งชิลล์พักขาแบบสบายๆ รอบด้านยังมีสัตว์ป่าขนาดไม่ใหญ่ให้เห็นกันได้ด้วยนะ สายธรรมชาติรักน้ำรักป่าน่าจะถูกใจ
เราปักหมุดมาจบทริปวันแรกในพิษณุโลกกันที่ อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า หนึ่งพิกัดที่สายธรรมชาติควรมาในจังหวัดนี้ ที่นี่มีทั้งบ้านพักและลานกางเต็นท์ให้บริการนะ แต่ควรจองล่วงหน้ากันตั้งแต่เนิ่นๆ ล่ะ ไม่งั้นก็อาจจะอดได้ ในเขตอุทยานฯ ยังมีพิกัดต่างๆ ที่น่าสนใจให้เราไปชมกันได้อีกหลายแห่งเลยละ บอกเลยว่าคุ้มค่าแถมยังไม่ต้องเดินทางกันไกลๆ ชิลล์จะตาย อยากให้แวะมา
เราออกสตาร์ทพิกัดแรกในอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้ากันที่ น้ำตกหมันแดง ซึ่งเป็นหนึ่งไฮไลท์ที่ไม่น่าพลาดเลยเชียวละ น้ำตกแห่งนี้มีทั้งหมดถึง 32 ชั้นเลยนะ แต่เค้าเปิดให้เราเข้าไปชมกันได้แค่ชั้น 1 – 9 เท่านั้นจ้า การจะเข้าไปชมต้องเดินเท้าเข้าไปอีกประมาณ 3.5 กิโลเมตร เป็นเส้นทางที่เราจะได้เห็นธรรมชาติของป่านี้กันแบบเต็มๆ ตา ถ้ามาช่วงเดือนสิงหาคมจะได้ชมความสวยอเมซิ่งของดอกลิ้นมังกรสีชมพูที่อยู่ด้านหน้าน้ำตกด้วยนะ สายเขียวทั้งหลายพลาดที่นี่ไม่ได้เลย
โรงเรียนการเมืองทหาร คือพิกัดต่อมาที่เราแวะเที่ยวกัน เพราะนี่คือหนึ่งหน้าประวัติศาสตร์ที่สำคัญของภูหินร่องกล้า เนื่องจากสภาพภูมิประเทศที่เป็นป่ารกเข้าถึงได้ยาก ในอดีตที่นี่จึงถูกใช้เป็นฐานที่มั่นของพรรคคอมมิวนิสต์ช่วงปี พ.ศ.2511 – 2515 ซึ่งที่นี่เราจะได้เห็นสภาพความเป็นอยู่ของโรงเรียนที่ใช้ศึกษาแนวคิดคอมมิวนิสต์ บ้านพักพลเรือน บ้านพักทหาร สถานพยาบาล และอื่นๆ อีกมากมาย แถมยังเป็นอีกพิกัดที่ใช้ถ่ายรูปได้สวยเลยละ ยิ่งช่วงปลายฝนต้นหนาวแบบนี้จะมีเมเปิ้ลแดงให้ดูด้วยนะ เริ่ดเชียวจ้า อย่าพลาดเชียว
พิกัดสุดท้ายของภูหินร่องกล้าที่เราจะได้แวะกัน ก็คือการมาชมแสงเย็นสวยๆ กันที่ ลานหินปุ่ม อีกหนึ่งซิกเนเจอร์ของอุทยานฯ ที่จะมองผ่านไปไม่ได้เลยละ ด้วยทิวทัศน์ของหน้าผากว้างซึ่งเต็มไปด้วยปุ่มหินสูงประมาณ 1 ฟุต กระจายตัวอยู่เต็มพื้นที่ ตรงนี้มีความสูงจากระดับน้ำทะเลถึงราวๆ 1,300 เมตรเลยเชียวนะ วิวแปลกตาแบบนี้ แถมปุ่มหินยังใช้เป็นที่นั่งชมพระอาทิตย์ตกได้เป็นอย่างดีด้วยจ้ะ มันเริ่ดมากน้า บอกเลยว่าถ้าไม่มาคือเสียดายชัวร์!
ถ้าไม่รังเกียจการตื่นเช้า เราขอชวนให้ขับรถไปลุ้นดูทะเลหมอกขาวๆ พร้อมพระอาทิตย์ขึ้นกันที่ เขาโปกโล้น ซึ่งเป็นพิกัดที่ว่ากันว่ามีทิวทัศน์พระอาทิตย์ขึ้นยามเช้าสวยที่สุดแห่งหนึ่งในเมืองไทยเลยเชียวละ ถ้าโชคดีก็จะได้เห็นทะเลหมอกปกคลุมผืนนาและป่าเขียวขจี มีทิวทัศน์ของหมู่บ้านที่อยู่ด้านล่างให้เห็นเหมือนเมืองตุ๊กตา ถึงแม้ว่าจะต้องเดินเท้าขึ้นมาดูกันเกือบชั่วโมงนะ แต่ก็บอกเลยว่าไม่ยากเกินไป แถมวิวที่ได้เห็นยังสวยคุ้มค่า เป็นพิกัดที่อยากให้มาเห็นด้วยตากันจริงๆ
จากเขาโปกโล้น เราขอชวนมุ่งหน้าสู่ อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง อีกหนึ่งแลนด์มาร์คที่สายธรรมชาติต้องแฮปปี้ เพราะนี่คือผืนป่าที่ได้ฉายาว่าเป็น ‘สะวันนาแห่งเมืองไทย’ ด้วยความที่เป็นพื้นที่กว้างซึ่งมีสภาพภูมิประเทศที่หลากหลาย ทั้งทุ่งหญ้าขนาดใหญ่ ป่าสน ถ้ำ น้ำตก และอีกมากมาย แถมยังมีสัตว์ป่าน้อยใหญ่อีกสารพัดสายพันธุ์ ที่สำคัญคือเดินทางง่ายเพราะขับรถเข้ามาเที่ยวกันได้เลยจ้า ถ้ามีเวลามากพอ มานอนพักซักคืนสองคืนจะชิลล์มากน้า อากาศหนาวๆ อย่างช่วงนี้ยิ่งเด็ดนักละ สายธรรมชาติต้องมาให้ได้เลยเชียว
อีกพิกัดที่ต้องมาเมื่อมาถึงอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวงก็คือ น้ำตกแก่งโสภา ซึ่งเป็นหนึ่งในน้ำตกที่มีชื่อเสียงที่สุดของพิษณุโลกเค้าเลยละ เพราะมีคนบอกว่านี่คือ ‘ไนแอการ่าของเมืองไทย’ เลยเชียวนะ ส่วนหนึ่งก็คงเพราะว่ามีลักษณะเป็นน้ำตกขนาดใหญ่ซึ่งในหน้าฝนจะมีน้ำไหลบ่าเชี่ยวกรากอย่างรุนแรง แต่หน้าแล้งอย่างช่วงหน้าหนาวและหน้าร้อนกลับเป็นช่วงที่จะชมน้ำตกแห่งนี้ได้สวยที่สุดเลยนะ เพราะจะได้เห็นชั้นของน้ำตกอย่างชัดเจนเต็มตา ต้องรีบมาเที่ยวกันแล้วละ
ขับรถต่อมาอีกไม่ถึงครึ่งชั่วโมงดี ก็จะได้มาเช็คอินกันต่อที่ น้ำตกแก่งซอง อีกหนึ่งน้ำตกยอดฮิตของพิษณุโลกเค้าละ และแม้จะเป็นน้ำตกเหมือนกัน แต่ที่นี่ก็ให้อารมณ์ที่แตกต่างไปจากน้ำตกแก่งโสภา เพราะมีลักษณะเป็นแก่งหินทั้งขนาดเล็กและใหญ่กั้นขวางทางไหลของลำน้ำเข็กเอาไว้ กลายเป็นชั้นน้ำตกหลายขนาดทอดตัวลดหลั่นกันเป็นทางยาว เหมาะกับการลงเล่นน้ำเชียวละ ริมฝั่งน้ำยังมีร้านอาหาร แถมยังมีบริการให้เช่าจักรยานน้ำและเรือพาย ตามมาด้วยคาเฟ่ชิลล์ๆ อีกหลายร้านให้เลือกใช้บริการกันด้วยนะ ใครชอบบรรยากาศคึกคักและความสะดวกสบาย ที่นี่คือใช่เลย
ขับรถต่อมาอีกไม่ไกล เราก็จะได้มาเช็คอินกับแลนด์มาร์คยอดฮิตของพิษณุโลกกัน ณ ต้นไม้รูปหัวใจ ในอำเภอเนินมะปราง ซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณของ ‘บ้านสวนชมวิว’ บนภูรักไทย โดยมีไฮไลท์เป็นต้นไม้ซึ่งแผ่กิ่งก้านแลดูคล้ายรูปหัวใจอยู่บนบริเวณจุดชมวิวแบบพอดี๊พอดี บนต้นไม้มีการทำพื้นที่ให้เราเดินขึ้นไปยืนดูความสวยของทิวทัศน์ได้แบบ 180 องศา ที่เก๋คือมีชิงช้าให้นั่งกันด้วยนะ เป็นจุดที่โรแมนติกสุดๆ เชียวละ มานั่งเล่นเดินเล่นแวะจิบเครื่องดื่มเย็นๆ ชมวิวก็เพลินดี มาใช้เป็นพิกัดถ่ายรูปก็เริ่ดจ้า ต้องมาให้ได้เน้อ
เราขอจบวันที่สองในพิษณุโลกกันที่ บ้านมุง หมู่บ้านเล็กๆ ในอำเภอเนินมะปราง ที่อัดแน่นไปด้วยความสวยของธรรมชาติแบบวิวหลักล้านเลยเชียวละ จุดเด่นของที่นี่คือทิวทัศน์ของทุ่งนากว้างแถมยังมีภูเขาหินปูนที่สวยโดดเด่นเตะตา จนได้รับฉายาว่าเป็นกุ้ยหลินเมืองไทย ใครชอบความชิลล์รับรองว่าต้องแฮปปี้กับความสงบที่แวดล้อมอยู่ในอ้อมกอดธรรมชาติของที่นี่สุดๆ เลยละ ใครชอบแนวผจญภัยก็มีบริการไกด์ชุมชนพาทัวร์ปีนเขาให้ได้มันกันด้วยนะ ตอนเย็นๆ ก็ยังมีฝูงค้างคาวยาวเป็นสายที่บินออกหากินช่วงค่ำให้ดูกันด้วยจ้า เป็นพิกัดสุดชิลล์ที่ใครมาก็เชื่อว่าจะติดใจ
พิษณุโลกนั้นเป็นที่ตั้งของพระราชวังจันทน์ อันได้ชื่อว่าเป็นสถานที่พระราชสมภพขององค์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ก่อนกลับเราจึงหาโอกาสมาสักการะที่ ศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช กันซักหน่อยนะ เพื่อความเป็นสิริมงคลในการเดินทางต่อไป ตัวศาลตั้งอยู่ในเขตโรงเรียนพิษณุโลกพิทยาคม ซึ่งเป็นเขตพระราชวังจันทน์ในยุคอดีตนั่นเองจ้า มีรูปแบบเป็นศาลาแบบไทยประยุกต์ล้อมรอบด้วยสนามหญ้ากว้าง ด้านในมีพระรูปจำลองขนาดเท่าพระองค์จริงสร้างไว้ ที่ขาดไม่ได้ก็คือบรรดารูปปั้นไก่ชนซึ่งเป็นสัตว์ที่พระองค์ทรงโปรดปราน แวะมาเช็คอินกันได้เลย
ห่างกันไม่ถึง 5 นาที เราก็มาถึงพิกัดปิดท้ายทริปกันที่ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุราชวรมหาวิหาร ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานองค์พระพุทธชินราช ซึ่งเป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองพิษณุโลกมายาวนานตั้งแต่ในยุคอดีต และยังขึ้นชื่อว่าเป็นพระพุทธรูปซึ่งงดงามที่สุดในประเทศไทย ด้านในวัดยังมีสถาปัตยกรรมและชิ้นงานพุทธศิลป์ที่งดงามอีกมากมายให้ได้แวะชมแวะกราบกัน และยังมีสังเวชนียสถานจำลองขององค์พระพุทธเจ้าซึ่งมีเพียงที่เดียวในเมืองไทยให้ได้ชมกันด้วยนะ กาดอกจันเลยจ้า วัดนี้ถ้าไม่มาก็เหมือนว่ายังไม่ถึงพิษณุโลกอย่างแท้จริงเชียวละ
พิษณุโลกคือเมืองรองที่เต็มไปด้วยความน่าสนใจ โดยเฉพาะสำหรับคนที่หลงใหลในความงดงามของธรรมชาติและ ประวัติศาสตร์ยิ่งต้องถูกใจเป็นพิเศษเลยละ อยากเที่ยวให้ทั่วกันจริงๆ คงต้องมีเวลาหลายวันซักหน่อยนะ แต่เชื่อว่าถ้าคุณเป็นคนรักความสงบ ไม่ชอบอยู่ท่ามกลางความพลุกพล่านวุ่นวาย นี่น่าจะเป็นหนึ่งพิกัดในดวงใจของคุณเชียวละ ลองหาวันว่างไปสัมผัสอากาศดีๆ บรรยากาศสบายๆ ในเมืองนี้กันดูนะ เชื่อว่าจะต้องประทับใจแน่นอนเลย
