หลายประเทศในโลกนี้ เริ่มกังวลกับสภาพภูมิอากาศ ภาวะโลกร้อน น้ำแข็งขั้วโลกละลาย ส่งผลมากมายต่อสภาพอากาศ รวมทั้งมลพิษ ฝุ่นจิ๋ว PM 2.5  ว่ากันว่ารถยนต์ที่ใช้กันอยู่ ในปัจจุบันเป็นสาเหตุสำคัญอย่างหนึ่ง ดังนั้น รัฐบาลแต่ละประเทศจึงมีนโยบายสนับสนุน ให้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า และส่งเสริม ให้ประชาชนในประเทศมาใช้รถยนต์ไฟฟ้า เพื่อลดการปล่อยก๊าซพิษ จากไอเสียรถยนต์ ที่ใช้น้ำมันเข้าสู่อากาศ ภายในปี 2035 กลุ่มประเทศในสหภาพยุโรป หรือ EU และสหรัฐ ประกาศให้ยกเลิกการใช้ และขายรถยนต์น้ำมัน ให้ใช้เฉพาะรถยนต์ไฟฟ้าเท่านั้น นอกจากนี้แล้วสถานการณ์ ความขัดแย้งรุนแรงในปัจจุบัน ภาวะสงครามสู้รบ ระหว่างรัสเซีย และยูเครน ส่งผลให้ราคาน้ำมันโลกพุ่งสูง ขึ้นอย่างรวดเร็ว และรุนแรง เป็นตัวเร่งให้ความต้องการใช้รถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น

EV Road Trip กรุงเทพ-เชียงใหม่ ประสบการณ์ใหม่ที่ต้องลอง

อ่านรีวิว 10 อันดับโรงแรม”สุดหรู” ในจังหวัด”เชียงใหม่”ที่คุณต้องห้ามพลาด !!

อ่านรีวิว 10 อันดับโรงแรมยอดนิยมในเมืองล้านนาเมืองแห่งเสน่ห์ “จังหวัดเชียงใหม่”

ความคุ้มค่า ของการเลือกใช้ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

        Electric Vehicle หรือรถ EV เป็นรถยนต์ ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ โดยใช้พลังงานไฟฟ้า ซึ่งเก็บอยู่ในแบตเตอรี่ หรืออุปกรณ์เก็บพลังงานไฟฟ้าอื่น ๆ ข้อดีของรถ EV คือเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ไม่ปล่อยไอเสียที่เป็นพิษเข้าสู่อากาศ การหันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้า นอกจากจะดูเป็นคนรักษ์โลก ใส่ใจสิ่งแวดล้อมแล้ว ในปัจจุบันค่าน้ำมัน ที่พุ่งสูงเพราะสถานการณ์โลกที่ตึงเครียด ส่งผลต่อกระเป๋าเงินของทุกคน ที่ต้องเติมน้ำมันรถ การหันมาใช้รถไฟฟ้า สามารถลดค่าใช้จ่ายใน การเติมน้ำมันตอนกลางวัน เอารถออกไปใช้ กลับมาเสียบปลั๊กชาร์ตแบตเตอรี่ ที่บ้านตอนกลางคืน ที่สำคัญคือค่าบำรุงรักษาต่ำกว่ารถยนต์ทั่วไป

รถพลังงานไฟฟ้า รถยนต์ของอนาคตอันใกล้ ขับระยะไกลต้องวางแผนให้ดี

            รถยนต์ไฟฟ้า ไม่ต้องเติมน้ำมันก็จริง แต่ต้องเสียบปลั๊กชาร์จแบตเตอรี่ การชาร์จแบบเร็ว Quick Charger ด้วยไฟฟ้ากระแสตรง ในการชาร์จแต่ละครั้ง ใช้เวลาประมาณ 40-60 นาที  แต่ถ้าการชาร์จแบบธรรมดา Normal Charger เช่นการชาร์จที่บ้าน หรือ สถานีชาร์จ ใช้เวลาประมาณ 4-8 ชั่วโมงเลยทีเดียว ในการชาร์จไฟแต่ละครั้ง ระยะทางที่รถวิ่งได้อยู่ระหว่าง  120 – 568 กิโลเมตร ขึ้นอยู่กับขนาดแบตเตอรี่ ที่ใช้ในรถยนต์ไฟฟ้าแต่ละรุ่น  ดังนั้นการขับรถยนต์ไฟฟ้า สำหรับการเดินทางระยะไกล ต้องคำนึงถึงสถานีชาร์จแบตเตอรี่รถ เป็นอันดับแรก เพราะถ้าแบตเตอรี่หมดไม่มี สถานีชาร์จอาจต้องเรียกรถสไลด์ มาขนรถไปหาสถานีชาร์จเลยทีเดียว และอีกอย่างคือรุ่นของรถที่เราใช้นั้น วิ่งได้ระยะทางกิโลเมตร ต่อการชาร์จไฟหนึ่งครั้งเพื่อคำระยะทาง และวางแผนเรื่องสถานีชาร์จ ให้สอดคล้องกับระยะวิ่งของรถเรา

สถานีชาร์จไฟ กรุงเทพ-เชียงใหม่ จุดแวะชาร์จแบตเตอรี่

            ระยะทางจากกรุงเทพ – ไปเชียงใหม่ ประมาณ 700 กิโลเมตร ควรใช้รถที่มีระยะวิ่ง ประมาณการที่ 300 กิโลเมตร ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ต้องแวะพักจอดเพื่อชาร์จแบตเตอรี่ถึง 3 จุดก่อนถึงปลายทาง ไม่แนะนำ สำหรับรถที่ระยะวิ่งน้อยกว่านี้ เพราะสถานีชาร์จรถไฟฟ้า ยังครอบคลุมไม่ทั่ว ถึงเหมือนปั๊มน้ำมันสำหรับรถยนต์ทั่วไป ก่อนออกเดินทางชาร์จไฟให้เต็มก่อน ที่สถานีบริการน้ำมัน PTT  สาขาถนนพหลโยธิน กม 25  กรุงเทพ ให้บริการชาร์จแบบ Quick Charger

-ช่วงแรก กรุงเทพ-นครสวรรค์  ระยะทางประมาณ 230 กม  เป็นจุดต่อไป ที่ต้องแวะเพื่อชาร์จแบตเตอรี่รถ สถานีชาร์จ คือที่สถานีบริการน้ำมัน PT พยุหะคีรี 2 นครสวรรค์ เป็นระบบชาร์จแบบ DC Fast Charge  EleX by EGAT และอีกแห่งหนึ่ง คือ PAE VOLTA สถานีบริการน้ำมัน บางจากพยุหะคีรี นครสวรรค์

-ช่วงที่ 2  นครสวรรค์-พิษณุโลก ระยะทางประมาณ 180 กิโลเมตร จุดแวะชาร์จไฟฟ้า คือสถานีบริการน้ำมัน PTTสาขาพิษณุโลก จ. พิษณุโลก และอีกที่หนึ่ง คือ PEA VOLTA สถานีบริการ น้ำมันบางจากเมืองพิษณุโลก (ข้างเซ็นทรัล)

-ช่วงที่ 3 พิษณุโลก-ลำปาง ระยะทางประมาณ 250 กม มีจุดชาร์จรถ ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ที่โรงไฟฟ้าแม่เมาะ และอีกแห่งก็ คือ สถานีชาร์จของ EGAT  PEA VOLTA สถานีบริการน้ำมันบางจากห้างฉัตร อำเภอห้างฉัตร จังหวัดลำปาง

-ช่วงสุดท้าย คือ ลำปาง-เชียงใหม่ ระยะทางประมาณ 110 กม  ถึงเชียงใหม่ด้วยแบตเตอรี่ เหลือพอที่จะขับรถหาที่พักได้

อ่านรีวิว 10 อันดับโรงแรม”สุดหรู” ในจังหวัด”เชียงใหม่”ที่คุณต้องห้ามพลาด !!

อ่านรีวิว 10 อันดับโรงแรมยอดนิยมในเมืองล้านนาเมืองแห่งเสน่ห์ “จังหวัดเชียงใหม่”

ขับรถยนต์ไฟฟ้า เดินทางระยะไกล Plan A Plan B อาจไม่พอ

            ถึงแม้เรา จะได้ยินเรื่องราวของรถ EV มานานกว่า 10 ปีแล้วก็ตามแต่ เนื่องจากราคา รถไฟฟ้าที่นำเข้ามาขาย ในประเทศไทยราคายังสูงมาก ทำให้กลุ่มคนใช้รถไฟฟ้า ในไทยยังมีจำนวนน้อย ธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ก็ยังไม่กล้าขยับตัวกันมากนัก ปัญหาของผู้ใช้รถไฟฟ้า ในประเทศไทยคือ สถานีบริการชาร์จแบตเตอรี่ ยังไม่ครอบคลุมทุกพื้นที่ ดังนั้นเมื่อจะต้องเดินทาง ในระยะไกลด้วยรถยนต์ไฟฟ้า ความพร้อมสำหรับ สถานีชาร์จไฟในระหว่างเส้นทาง

       จึงเป็นเรื่องสำคัญ ที่คนใช้รถยนต์ไฟฟ้าต้องตระหนัก เพราะในบางพื้นที่สถานีชาร์จ ยังไม่เปิดใช้งานได้จริง ดังนั้นก่อนจะแวะไปพัก เพื่อชาร์จไฟให้รถที่ไหน ควรโทรไปเช็คก่อนว่า เปิดบริการหรือไม่ เป็นการชาร์จแบบไหน และเปิดหรือปิดเวลาไหนบ้าง เพื่อเราจะได้วางแผน 2 แผน 3 สำหรับกรณี สถานีชาร์จบางที่ ที่เราตั้งใจไปแล้วยังไม่พร้อม สำหรับการให้บริการ และโหลดแอป Plug Share แอปผู้ให้บริการสถานีชาร์จเอาไว้เผื่ออีกทาง

ขับรถยนต์ไฟฟ้า ต้องวางแผนเวลา สำหรับการเดินทาง

            ในการขับรถยนต์ทั่วไป เราแวะเติมน้ำมันพร้อม กับพักรถบางจุดพักเราใช้เวลาไม่มาก แต่ในการชาร์จแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า ในแต่ละครั้งจะใช้เวลาอย่างต่ำประมาณ 1 ชั่วโมงสำหรับ การชาร์จแบบ Quick Charge และหลายชั่วโมง สำหรับการชาร์จแบบธรรมดา ดังนั้นต้องเลือกสถานี ให้บริการชาร์จแบบ Quick Charger เพื่อประหยัดเวลาในการเดินทาง

        พร้อมกับวางแผนการพัก ของเราไปพร้อม ๆ กัน การเดินทางไปเชียงใหม่ ด้วยรถไฟฟ้าอาจใช้เวลามากกว่า เมื่อเทียบกับเดินทางด้วยรถยนต์ทั่วไป แต่การเดินทางไกลด้วยรถยนต์ไฟฟ้า คือประสบการณ์ของการเดินทางอีกรูปแบบใหม่ ที่น่าสนใจที่ควรต้องลองสักครั้ง

       ซึ่งรูปแบบของการเดินทาง ในแต่ละทริปที่คุณได้วางไว้นั่น บางครั้งผู้อ่านจำเป็นอย่างมาก ที่จะต้องมี การคิดคำนวณเรื่องราวต่าง ๆ ที่เป็นเหตุการณ์เฉพาะหน้า เอาไว้ด้วยนะ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่นักเดินทางท่องเที่ยว ทุกท่านควรที่จะต้องคิดเอาไว้ ตลอดเสมอในทุกการเดินทาง

ถ้าพร้อมกันแล้วก็เตรียมเก็บกระเป๋าและเดินทางไปเที่ยวเชียงใหม่กัน

อ่านรีวิว 10 อันดับโรงแรม”สุดหรู” ในจังหวัด”เชียงใหม่”ที่คุณต้องห้ามพลาด !!

อ่านรีวิว 10 อันดับโรงแรมยอดนิยมในเมืองล้านนาเมืองแห่งเสน่ห์ “จังหวัดเชียงใหม่”